
จะเจ็บ จะจนแค่ไหน...
อย่าให้เงินทุกคนบนโลก จนลืมให้ตัวเอง
ประโยคนี้ ผมได้มาจากหนังสือ
"เปลี่ยนหนี้เป็นอิสรภาพทางการเงิน"ครับ
วันนี้เราไม่ได้มาพูดถึงคนที่มีเงินเหลือเฟือที่เอาแต่ให้คนอื่น แต่ #เรากำลังพูดถึงคนที่เป็นหนี้ ที่ต้องใช้ชีวิตด้วยการทำงาน หาเงินใช้หนี้ วนเวียนอยู่ในวัฏจักรที่ไม่สามารถหลุดพ้นได้
จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่า 84% ของครัวเรือนยังต้องพึ่งพาหนี้จากสถาบันการเงิน และกว่า 1ใน 3 ของคนไทยมีภาระหนี้สูง และส่วนใหญ่เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ คนไทยมีหนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย มีหนี้นานตั้งแต่เริ่มทำงานจนเกษียณ ก็ยังมีหนี้จนแก่
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับประโยคข้างต้น?
ใครที่เป็นหนี้ในระดับที่พอดี มีพอกินพอใช้ สามารถบริหารจัดการได้ อาจจะไม่เข้าใจครับ แต่หากใครที่มีหนี้สินล้นตัว ชนิดที่ออกแรงหาเงินมาเท่าไหร่ ก็จ่ายออกไปจนหมด แต่หนี้ก็ยังไม่ลดเสียที
อันนี้แหละครับคือประเด็น ใครที่ติดอยู่ในวังวนนี้ หากคุณเอาแต่หาเงินใช้หนี้ต่อไป ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่า #ระหว่างหมดหนี้กับหมดแรง
#อะไรจะมาถึงก่อนกัน?
บางคนได้เงินเยอะนะครับ แต่เข้าบัญชีปุ้บ โอนออกปั๊บ จ่ายค่าบ้าน ค่ารถ ค่าบัตรเครดิต ค่าน้ำค่าไฟ ค่ามือถือ ค่า Internet หนี้นอกระบบต่างๆ ที่กู้หนี้ยืมสินมา จ่ายให้ครบทุกอย่าง แต่ลืมจ่ายให้ตัวเอง...
ยิ่งคุณหาเงินมาจ่ายมากเท่าไหร่ ยิ่งหมดแรงไปเท่านั้น หนี้ลดช้า แต่ร่างกายทรุดเร็วมาก กำลังใจก็ถดถอยเพราะรู้สึกว่าไม่หลุดพ้นเสียที
การตั้งใจหาเงินใช้หนี้เป็นสิ่งที่ดีครับ แต่ผมอยากให้คนเป็นหนี้ทุกคน คิดถึงอนาคตด้วยครับ การที่คุณหามาได้เท่าไหร่ ก็จ่ายออกไปมากเท่านั้น อาจจะดีกับเจ้าหนี้ของคุณ แต่ไม่ดีกับตัวคุณในระยะยาวอยู่ดี
โดยเฉพาะถ้าหนทางหนี้นี้อีกยาวไกล
คุณจะมีแรงไปได้อีกแค่ไหน?
#สิ่งที่ผมอยากแนะนำสำหรับโพสวันนี้นะครับ
"เป็นหนี้ก็ต้องใช้ แต่อนาคตตัวเองก็ต้องมีครับ"
ผมอยากให้คุณลองฝึกแบ่งเงิน เพื่อมาเป็นกำลังใจให้ตัวเองครับ จากเดิมใครที่ได้เงินมาเท่าไหร่ จ่ายหนี้ไปจนหมด เหลือติดกระเป๋ากินใช้แบบพอบ้าง ไม่พอบ้าง
วันนี้เริ่มต้นกันใหม่ครับ...
ได้เงินมาเท่าไหร่ ตั้งสติ อย่าเพิ่งโอนไว แบ่งเงินสัก5% ของรายได้ก่อน หรืออาจจะ1-2พัน/เดือน แล้วแต่สะดวก ฝากเข้าบัญชีไว้ครับ แล้วยึดมั่นกับตัวเองว่าบัญชีนี้ มีไว้ให้เห็นเป็นกำลังใจ เป็นตายร้ายดียังไง คุณจะไม่ถอนมาใช้หนี้ หรือใช้จ่ายตนเองเด็ดขาด!
หลังจากแบ่งเงินแล้ว เหลือเท่าไหร่ ค่อยเอามาคิดว่า นั่นคือรายได้100%ของคุณ แล้วค่อยแบ่งใช้หนี้ตามสะดวก
#ผมเชื่อว่าหลายคนจะถามในใจ
"แล้วถ้าหักออกไป ไม่พอใช้หนี้ละพี่หมง..."
ผมก็จะตอบว่า แล้วการที่คุณใช้หนี้จนหมดตัว จนไม่เหลือไว้ให้ตัวเองเลย เรียกว่าพอเหรอครับ? อันนั้นก็เรียกว่าไม่พอเหมือนกันครับ เพียงแต่คุณยอมขาดที่ตัวเอง แล้วจ่ายให้คนอื่นก่อน ทั้งที่ตัวเองสำคัญที่สุด
ถ้าคุณหมดแรงไป หมดกำลังใจ ใครจะหาเงินมาใช้หนี้ต่อ? ก็ตัวคุณทั้งนั้น ส่วนหนี้สินที่เป็นอยู่ ถ้าไม่พอจ่าย ก็ต้องหาทางกันครับ
อย่าไปเหมาเงินก้อนนั้นเด็ดขาด นั้นไม่ใช่เงินของเจ้าหนี้ครับ นั่นเงินของ (อนาคต)คุณ
นี่คือการฝึกวินัยในการออม และฝึกการจัดลำดับความสำคัญของการใช้เงินหนี้ยังไม่หมดก็เริ่มได้ และถ้าคุณทำต่อเนื่องไปได้สักแค่3เดือน (ก็แค่3ครังเองครับ)
ผมเชื่อว่าความรู้สึกคุณจะเปลี่ยน อย่างน้อยคุณจะรู้สึก"อุ่นใจ" และ มีกำลังใจมากขึ้น
ดังนั้น "การจัดลำดับความสำคัญของการใช้เงิน" เป็นสิ่งจำเป็นมาก โดยเฉพาะคนที่มีหนี้สินอยู่ อย่ารอให้หนี้หมด แล้วค่อยทำครับ สร้างหนี้ ยังสร้างมาได้ตั้งนาน สร้างวินัย สร้างอนาคตให้ตัวเอง ก็ต้องทำให้ได้ครับ
-- เป็นกำลังใจให้หลุดพ้นหนี้กันทุกคนครับ --
Comments