Mongkol Lu
กล้าๆหน่อย
วันนี้ลูกสาววัยรุ่นของผมเล่าสำนวนฝรั่งอันหนึ่งที่กวนมากๆให้ฟัง
เป็นสำนวนที่พ่อบอกเพื่อให้ลูกชายกล้าไปชวนสาวออกเดทว่า
"It's better to shit your pants than to die of constipation"
"ยอมขี้แตกเปรอะตูด ดีกว่าอึดอัดตายเพราะท้องผูก" 555555
ทำให้ผมนึกถึงหลายคนเลยที่มีเงิน ก็เอาแต่ฝากธนาคาร
แล้วก็ได้แต่บ่นว่าดอกเบี้ยต่ำติดดิน ไม่พอให้เงินเฟ้อกัดกินด้วยซ้ำ
พอมีใครมาชวนให้ลองไปลงทุนในหุ้นก็ลังเลไม่กล้า กลัวขาดทุน
ผมมีโอกาสพูดคุยกับนักลงทุนที่เก่งๆหลายคนในตลาดหลักทรัพย์
พวกเค้ามักจะเล่าให้ฟังว่า กว่าที่ทุกคนจะเห็นว่าเค้าเก่ง เค้าสำเร็จ
เค้าก็เคยเจ๊งมาหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยย่อท้อ เค้าถือว่าเป็นค่าวิชา
ซึ่งในความเป็นจริงแล้วหากคุณเข้าใจ
โดยการศึกษาเรื่องการลงทุน
เข้าใจเรื่องความเสี่ยง และกลยุทธที่จะช่วยลดความเสี่ยง
เข้าใจกลยุทธการลงทุนระยะยาว
เข้าใจวิธีคัดเลือกหุ้นหรือเลือกกองทุนหุ้น
คุณก็สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากธนาคาร
หรือการลงทุนในตราสารหนี้ เช่นพันธบัตร หรือหุ้นกู้ได้มากมาย
จากสถิติผลตอบแทนสินทรัพย์ต่างๆในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2542-2556
พบว่า
หากคุณฝากแต่ธนาคาร เงินของคุณ 100บาท จะเพิ่มเป็น 147.56บาท
หากคุณลงทุนในพันธบัตร เงินของคุณ 100บาท จะเพิ่มเป็น 224บาท
แต่หากคุณลงทุนในหุ้น เงินของคุณ 100บาท จะเพิ่มเป็น 572.42บาท
จะเห็นได้ว่าในระยะยาวแล้ว
การลงทุนในหุ้นให้ผลตอบแทนดีกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่น
แต่ให้สังเกตุระหว่างทางนะครับ
บางปีหุ้นติดลบ 43.15% , 11.10% , 0.71% , 44.12%
และปีที่แล้วติดลบ 3.67%
ถามว่าคุณทนรับความผันผวนระหว่างทางได้หรือเปล่า
คนที่ไม่เข้าใจเรื่องการลงทุนระยะยาวมักทนไม่ได้
หลายคนบอกว่าในแต่ละปีมีสินทรัพย์ที่ดี ที่ไม่ดีแตกต่างกัน
อย่างนั้นเราก็คอยดูดิ อย่างไหนดีย้ายไปอันนั้น
ผมบอกได้เลยว่าได้แค่คิดครับ ส่วนใหญ่เดาผิดตลอด
เพราะอุปสรรคสำคัญ คือความโลภ และความกลัวครับ
ในระยะสั้นเดาทางยาก ไม่มีใครทำนายตลาดได้จริงหรอก
ถ้าทำได้คนส่วนใหญ่ที่เล่นหุ้นก็คงรวยกันหมดทุกคนแล้ว
หรือถ้าคุณเห็นตารางสถิตินี้ตั้งแต่ปี 2542 ป่านนี้ก็เป็นอภิมหาเศรษฐีกันแล้ว
แต่ถ้ายังไม่กล้าอยู่อีก
คำแนะนำคือก็เก็บเงินหรือลงทุนในสินทรัพย์ทั้ง 3ประเภท
โดยกลยุทธจัดสรรการลงทุน หรือ Asset Allocation สิครับ
อย่างน้อยในปีที่ตลาดหุ้นตก สินทรัพย์อื่นขึ้น
จะได้ช่วยไม่หัวใจคุณวายไปเสียก่อน
หากอยากประสบความสำเร็จเรื่องการเงิน เรียนรู้การลงทุนเถอะครับ
ระหว่างทางอาจเจ็บตัวไปบ้าง
แต่ก็ดีกว่าทนอึดอัดกับความเสี่ยงจากการไม่ลงทุนใช่ไหมครับ