top of page

ถูกชั่วคราว แต่แพงชั่วโคตร

Writer: Mongkol LuMongkol Lu

ผมว่าคุณเคยมีประสบการณ์เดินตามห้าง

แล้วมักจะเห็นบู๊ทที่ติดป้ายโฆษณาว่า

"ฝากเงินผลตอบแทนสูง"

แล้วก็มีพนักงานขายออกมาเชิญชวนให้ฝากเงินตามที่บอก

วันก่อนมาเลยบอกฝากเงินผลตอบแทน 6%ต่อปี

โห ใครเห็นก็น่าคุยหล่ะครับ

พอเห็นใบปลิวที่เค้าให้มา

อ่าว เป็นประกันแบบสะสมทรัพย์นี่หว่า

แล้วมันจะให้ 6%ได้ยังไง

พอให้เค้าอธิบายถึงเห็นครับว่า

คนขายเค้าอาจไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้ก็ได้

เค้าเอาเงินคืนทั้งหมด ลบด้วยเงินที่ส่งไป

หารด้วยจำนวนปี แล้วมาเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์กับเงินที่ส่ง

ปีแรกอ่ะใช่ครับเหมือนที่เค้าบอก

พอปีสองเงินที่ส่งมันเป็นสองเท่าแล้ว

แต่กำไรเฉลี่ยยังคงเท่าเดิม

ยิ่งปีสามปีสี่เงินสะสมมากขึ้น

แต่กำไรเฉลี่ยยังคงเท่าเดิม

แล้วมันจะเป็นผลตอบแทนปีละ6%เหมือนที่บอกยังไง

กรมธรรม์แบบสะสมทรัพย์

บริษัทประกันเค้าเอาไปลงทุนในพันธบัตรระยะยาว

ซึ่งปัจจุบันผลตอบแทนอยู่ที่ 4 - 5%

แล้วบริษัทไหนเค้าจะมายอมขาดทุนใช่ป่ะ

บางเจ้าอย่างธนาคารหลายแห่งชอบทำ

คือเอาภาษีที่ประหยัดได้ไปรวมกับ

ผลประโยชน์ของกรมธรรม์ให้ดูดี

แล้วถ้าคนซื้อฐานภาษีไม่ถึงหล่ะจะได้เท่านี้ป่ะ

บางที่ออกแบบกรมธรรม์ที่เน้นหักภาษีจริงๆ

ทุนประกันที่เป็นผลประโยชน์หลักของประกันก็ไม่มี

ทุนประกันเท่ากับเงินที่เราส่งไป

ผลประโยชน์จากการออมก็พอๆกับฝากประจำ

เน้นแต่ให้ผู้ซื้อไปรับประโยชน์จากภาษีที่ประหยัดได้

โดยบริษัทประกันแทบไม่ต้องจ่ายอะไรให้ลูกค้าเลย

แล้วแบบนี้มันดีตรงไหนอ่ะ

บางที่ซื้อประกันแจก

iPhone ทองคำ กระเป๋าหลุยส์ติงต้อง อื่นๆอีกมากมาย

คนซื้อมองแต่ของแถม

โดยไม่เฉลียวใจเลยว่า

ถ้ามันดีจริง ผลตอบแทนสูงจริง

ทำไมมันต้องมีของแถม

กลายเป็นว่าเอาโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนที่ดี

มาแลกกับของแถมถูกๆ

ถ้าจะซื้อประกัน อย่าซื้อเพราะเหตุผลพวกนั้นเลยครับ

ไม่ว่าจะเป็น ผลตอบแทนสูง ประหยัดภาษี หรือได้ของแถม

เหตุผลที่คุณควรจะซื้อ น่าจะเป็น

เพื่อความคุ้มครอง เพื่อเก็บเงินระยะยาวที่แน่นอน

ไม่ใช่เหตุผลพวกนั้นครับ

ไม่งั้นนะ คุณจะได้ "กระดาษปึกนึง"

ที่ถูกชั่วคราว แต่แพงชั่วโคตรครับ


 
 
 

© 2020 by Mongkol Lusamlit

bottom of page