วันก่อนมีน้องคนหนึ่งมาขอคำแนะนำเรื่องวางแผนการเงิน
เมื่อได้พบกัน น้องเล่าให้ฟังว่า
ตัวเองทำงานมีรายได้เดือนละ 3หมื่นกว่าบาท
มีพ่อแม่ที่ต้องดูแล ตัวเองก็มีสุขภาพที่ไม่ค่อยดี
มีน้องที่เพิ่งทำงานรายได้ไม่มากนัก
มีความคิดว่าอยากหาเงินได้เยอะๆ
จะได้มาช่วยดูแลพ่อแม่และตัวเอง
อ่านหนังสือเรื่องหุ้น ฟังเรื่องหุ้น
แล้วเห็นว่าน่าจะเป็นวิธีที่จะทำให้รวยได้
แต่ไม่มีความรู้ก็เลยไปลงเรียนในคลาสที่สอนเทคนิคการเล่นหุ้น
และก็นำเงินเก็บ3แสนที่มีไปเล่นหุ้นที่ตัวเองคิดว่าดี
ผ่านมาเพียง 2เดือนปรากฏว่าพอร์ทแดงเถือก
ขาดทุนยับเยิน เลยก่ะยอมขายขาดทุน
แล้วหันหลังให้กับหุ้นตลอดไป
ผมว่าน้องคนนี้คงไม่ใช่คนแรกที่เป็นแบบนี้
และคงมีคนจำนวนมากคิดหาวิธีรวยลัด
แบบน้องคนนี้เหมือนกัน
คนที่เล่นหุ้นแล้วรวย แล้วกำไรมักเสียงดัง
เวลาที่เสียหุ้น หรือขาดทุนมักเงียบกริบ
คนจำนวนมากได้ยินคนที่เสียงดังพูด
ว่าเล่นหุ้นแล้วรวย
ก็เลยคิดว่าตัวเองก็น่าจะรวยได้เหมือนคนที่พูด
แต่ความจริงแล้ว
ถ้าคุณมีโอกาสได้คุยกับคนที่คุณคิดว่าเค้ารวยหุ้นวันนี้
ให้เค้าเล่าประสบการณ์ลงทุนของเค้า
เรื่องราวjอาจคล้ายๆกันคือเคยเจ๊งมาก่อนทั้งนั้น
มันต้องจ่ายค่าวิชาครับถึงจะมีโอกาสรวย
และกว่าจะรวยจริงมันไม่เร็วหรอกครับ
มันต้องผ่านขั้นตอนล้มลุกคลุกคลานก่อนทั้งนั้น
แต่ถามจริงๆเถอะว่า
ตอนนี้คุณพร้อมที่จะจ่ายค่าวิชาแบบนี้หรือเปล่า
หากคุณขาดทุนคุณทนได้ป่ะ
มีใครต้องเดือดร้อนถ้าคุณขาดทุนหรือเปล่า
ถ้าคุณยังไม่พร้อม และอาจมีใครเดือดร้อน
เริ่มต้นวางแผนการเงินกันก่อนดีไหมครับ
เหมือนน้องคนนี้
ผมขอปรับความคิดเรื่องนี้ใหม่
ให้มาวางแผนการออม วางแผนการเงิน
เพื่อสิ่งสำคัญในชีวิตของเค้าก่อน
ได้แก่เงินฉุกเฉินหากตัวเองและพ่อแม่เกิดเจ็บป่วย
เพราะประกันสุขภาพของตัวเองและพ่อแม่ก็ซื้อไม่ได้แล้ว
เงินเก็บและเงินลงทุนระยะยาว
ด้วยRMFเพื่อชีวิตวันเกษียณและได้ลดหย่อนภาษี
และถ้าในอนาคตมีเงินเหลือหลังจากทำเรื่องจำเป็นนี้แล้ว
หากอยากหาความตื่นเต้นจากการลงทุนก็แบ่งเงินไปทำ
วิธีการที่ผมแนะนำอาจไม่ตอบโจทย์การอยากรวยเร็ว
แต่มันเป็นวิธีที่รวยได้แน่ๆในระยะยาว
ใครที่คิดเหมือนน้องคนนี้ ที่อยากรวยเร็ว
และเห็นว่าตลาดหุ้นจะทำให้ได้
ปรับความคิดใหม่เถอะครับ
อย่าพยายามหาทางลัดในการสร้างความรวยเลย
กลับมาทำพื้นฐานที่ถูกต้อง
ที่จะทำให้คุณและคนที่คุณรัก
อยู่ได้แบบยั่งยืนกันก่อนเถอะครับ