ผมนึกถึงเคสๆนึงตอนที่ผมเริ่มต้นทำงาน
ในฐานะตัวแทนประกันชีวิตเต็มเวลาเมื่อ24ปีที่แล้ว
ตอนนั้นผมเพิ่งเริ่มต้นทำงานใหม่ๆหลังเรียนจบมาหมาดๆ
มีเพื่อนรักของผมคนหนึ่ง
มาหาผมที่ออฟฟิศมาขอซื้อประกัน
เพื่อให้ผลงานเป็นของขวัญวันเกิดกับผม
หลังจากวันนั้น2ปี
เพื่อนผมคนนี้ป่วยเป็นโรคภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเอง SLE
ผมช่วยทำเคลมในฐานะตัวแทนที่ดี
วันหนึ่งเพื่อนบอกกับผมว่า"หมอแนะนำให้เราตัดม้าม"
เค้าบอกผมว่าไม่อันตรายอะไร
หลังผ่าตัดเค้ามีอาการดีขึ้น
เค้าบอกผมว่าเค้าจะแต่งงาน ผมเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวนะ
อีกวันที่ผมไปเยี่ยมเค้า
ภาพกลับเป็นอาการเค้าทรุดหนัก
เช้าอีกวันผมไปเยี่ยมเค้า ป้ายชื่อหน้าห้องถูกถอดออก
พยาบาลบอกว่าย้ายไปห้องไอซียู แต่ตอนนี้เสียแล้ว
ผมช็อค น้ำตาไหล
ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าลูกค้ารายแรกที่ผมต้องมาทำเดทเคลม
คือเพื่อนรักของผม
หลังงานศพผมนำเช็คเคลม 800,000 บาทไปให้พ่อเค้า
แล้วบอกกับพ่อเค้าว่า
"ป๊าครับนี่เป็นเงินที่ต๋องฝากไว้นะครับ
อยากให้ป๊าม้าเก็บไว้ แล้วค่อยๆถอนมาใช้
เหมือนว่าต๋องยังอยู่
ต๋องยังดูแลป๊าม้าเหมือนเดิมนะครับ"
น้ำตาของผมและของป๊าก็ไหลออกมาอาบสองแก้ม
น้ำตาของผมเป็นน้ำตาของความเสียใจและภูมิใจ
เสียใจที่เพื่อนรักของผมจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
ภูมิใจแทนต๋องเพื่อนรักของผม
ที่ได้ทำหน้าที่ลูกครั้งสุดท้ายในชีวิต
วันนั้นผมขับรถกลับบ้าน
พร้อมกับความคิดที่จะทำงานนี้เป็นงานแรกและงานสุดท้ายในชีวิต
เพราะผมได้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนที่ได้ส่งมอบ
ความรัก ความห่วงใย ความกตัญญู
จากคนๆหนึ่งไปสู่คนอีกคนหนึ่ง
ถึงแม้วันนี้ผมจะต่อยอดสู่การเป็นที่ปรึกษาการเงินแล้ว
ความรู้สึกดีๆเช่นนี้ก็ไม่เคยจางหายจากหัวใจผม
และมันจะอยู่ในหัวใจผมตลอดกาล