top of page
Writer's pictureMongkol Lu

สถานกาณ์น่าเป็นห่วง

จากการสำรวจคนอายุ 55 -75 ในอเมริกา

ในฐานะของคนที่ใช้ชีวิตหลังเกษียณ

ว่าหากคุณจะให้คำแนะนำทางการเงินกับคนหนุ่มสาว

คุณจะให้คำแนะนำอย่างไร

คำแนะนำ 3 คำแนนะนำแรกที่มีคนตอบสูงสุดคือ

93% บอกว่าให้เริ่มต้นออมเงินให้เร็ว

84% บอกว่าถ้าที่ทำงานมีการออมเงินเพื่อเกษียณให้เข้าร่วม

61% บอกว่าวางแผนให้มากขึ้น

โห!!! ขนาดบ้านเค้าให้ความสำคัญกับการวางแผนเกษียณ

เค้ามีระบบการออมเงินเพื่อเกษียณเช่น 401K

ที่เหมือนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของเรา

แต่ของเค้าเป็นกองทุนสำรองเลี้ยงชีพภาคบังคับ

มีการออมและลงทุนเพื่อเกษียณกันอย่างแพร่หลาย

ผู้คนมีความรู้และเข้าใจเรื่องการออมและลงทุน

คนที่เกษียณของเค้ายังตอบแบบนี้

ก็แสดงว่าชีวิตหลังเกษียณของคนอเมริกันคงไม่เป็นที่น่าพอใจ

แล้วที่บ้านเราหล่ะ ผมว่าเราหนักกว่าเค้าเยอะนะครับ

บ้านเรามีการเตรียมตัวเรื่องเกษียณนี้น้อยมากๆ

บริษัทที่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมีน้อยมากๆ

เพียงประมาณ 14,000 บริษัท

จากบริษัทหลายแสนบริษัทในประเทศ

แล้วจำนวนเงินที่ส่งเงินเข้ากองทุน

ก็น้อยนิดแค่ 3-5% ของเงินเดือน

รวมทั้งส่วนของพนักงานและบริษัทสมทบ

ก็แค่ 6-10% ของเงินเดือน

กองทุนประกันสังคมที่เราทนอุตส่าห์สมทบมาเกิน15ปี

เพื่อที่เราจะได้เงินเลี้ยงดูเพียงเดือนละ 3,000 บาท

คุณว่ามันจะพอเลี้ยงตัวเองหลังเกษียณไหม

ขนาดเราได้เงินกลับมาแค่นี้เองนะ

คุณคงเคยได้ข่าวนะว่า

หากไม่มีการปรับปรุงระบบกองทุนประกันสังคมไทย

กองทุนประกันสังคมอาจจะมีเงินไม่พอจ่ายในอนาคตอีก

ส่วน RMF ที่พอจะเป็นเครื่องมือช่วยเกษียณที่สำคัญ

แถมได้สสิทธิลดหย่อนภาษีด้วย คนก็กลับไม่ค่อยนิยมซื้อกันอีก

คนไทยเรายังมีความรู้และการเตรียมตัวเรื่องเกษียณนี้น้อยมากๆ

คนส่วนใหญ่ยังสนุกกับการใช้จ่าย

มากกว่าการออมและลงทุน

พอจะลงทุนก็มุ่งเน้น

การลงทุนที่จะทำให้รวยเร็วๆโดยไม่สนใจข้อมูล

จะซื้อหุ้นบางทียังไม่รู้เลยว่าหุ้นตัวนั้นเค้าทำกิจการอะไร

ธนาคารแทนจะกระตุ้นการออม

กลับกระตุ้นให้คนเป็นหนี้มากขึ้น

จากการใช้บัตรเครดิตและสินเชื่อ

หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้

คงไม่ต้องสงสัยเลยว่า

ชีวิตหลังเกษียณของคนในบ้านเราจะเป็นยังไง

หากคุณได้อ่านบทความนี้

ผมหวังว่าคุณจะรีบเริ่มต้นศึกษาหาความรู้เรื่องเกษียณ

วางแผนและทำตามแผนเกษียณกันได้แล้วนะครับ


13 views0 comments
bottom of page