top of page
Writer's pictureMongkol Lu

เริ่มเร็วเครียดน้อย เริ่มช้าเครียดมาก

คุยกับพี่แล้วเครียดอ่ะ

ผมมักจะได้ประโยคเชิงตัดพ้อแบบนี้บ่อยๆครับ

เวลาที่ผมชวนคุย ชวนคิดถึงจำนวนเงินที่เค้าต้องมีเมื่อถึงวันเกษียณ

ที่เครียดไม่ใช่ผมพูดไปหน้าบึ้งไป หรือพูดไปด่าเค้าไปนะครับ

แต่ที่เครียดนี่ก็เพราะรู้ถึงจำนวนเงินที่ต้องมีเมื่อวันเกษียณครับ

พอรู้นี่ถึงกับหน้าเป็นคิ้วผูกโบว์เลย

เวลาได้ยินประโยคที่บอกว่าเครียดนะ

ผมมักจะบอกกลับไปว่าเครียดซะตอนนี้

ดีกว่าไปเครียดตอนรู้ว่ามีเงินไม่พอตอนใกล้เกษียณจริงป่ะ

อะ งั้นมาเครียดซะตอนนี้พร้อมๆกันนะครับ

สมมุติว่าวันนี้เป็นวันที่คุณเกษียณ

คุณคิดว่าคุณต้องมีเงินก้อนเท่าไรถึงจะพอเกษียณได้

คิดง่ายๆแบบนี้นะครับ

ตอบตัวเองเลยนะครับว่า

คุณต้องมีเงินไว้ใช้ส่วนตัวขั้นต่ำเดือนละเท่าไรในตอนนี้

ที่คุณจะสามารถใช้ในแบบไลฟ์สไตล์ที่คุณต้องการ

สมมุติคุณบอกว่าขั้นต่ำนะต้องมีเดือนละ 30,000 บาท

ปีนึงก็ 30,000 x 12 = 360,000 บาท

หลังเกษียณคาดว่าคุณจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีก 25 ปี

อันนี้อย่าเผื่อสั้นไปนะครับ ยิ่งบางบ้านปู่ย่าตาทวดยังอยู่กันครบ

ถึงตาคุณ คุณก็มีโอกาสที่จะอายุยืนกว่าอีก

ท่องไว้ครับ

"น่าเสียดายตายไปใช้เงินไม่หมด

น่าสลดใช้เงินหมดแล้วยังไม่ตาย"

เรื่องตายไม่ใช่ปัญหา ปํญหาคือเงินหมดแล้วแต่ดันไม่ตายนี่สิ

สมมุติหลังเกษียณคุณหาผลตอบบแทนของเงินได้เท่าเงินเฟ้อ

จำนวนเงินที่คุณต้องมีในวันที่คุณเกษียณคือ

360,000 x 25 = 9,000,000 บาท

อันนี้เป็นเงินที่สมมุติว่าวันนี้เป็นวันเกษียณนะครับ

ถ้าเป็นอีกหลายปีจจะเกษียณก็ต้องมีมากกว่านี้

เพราะข้าวของย่อมแพงขึ้นจากเงินเฟ้อ

ถ้าเงินเฟ้อเป็น 3.5%

หากคุณจะเกษียณในอีก 10ปีข้างหน้าก็เอา 1.41 คูณเข้าไป

หากคุณจะเกษียณในอีก 20ปีข้างหน้าก็เอา 1.99 คูณเข้าไป

หากคุณจะเกษียณในอีก 30ปีข้างหน้าก็เอา 2.81 คูณเข้าไป

เช่นถ้าตอนนี้คุณอายุ 30 จะเกษียณในอีก 30ปีข้างหน้า

โดยอยากมีเงินใช้เหมือนปัจจุบันเดือนละ 30,000 บาท

จำนวนเงินเกษียณที่คุณต้องมีคือ

9,000,000 x 2.81 = 25,290,000 บาท

เริ่มเครียดยังครับ ถ้ายังเพิ่มอีกนิดนะครับ

จำนวนเงินก้อนนี้ยังไม่ได้เผื่อ

หากอายุยืนกว่านี้

หากมีค่าใช้จ่ายอื่นหลังเกษียณเช่นค่ารักษาพยาบาล

หากเงินเฟ้อสูงกว่านี้

จริงแล้วคุณยังไม่ต้องเครียดเยอะหรอกครับ

เพราะจำนวนเงินก้อนนี้ต้องหักมูลค่าในอนาคตของ

ทรัพย์สมบัติเก่าที่คุณเริ่มสะสมมาก่อนแล้ว

เช่นกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ RMF กองทุนที่มี ฯลฯ

คุณก็เตรียมเฉพาะส่วนที่ขาดอีกเท่านั้น

แล้วถ้าคุณมี "เวลา" ที่คุณจะใช้ในการเก็บเงินหรือลงทุนมากพอ

โอกาสที่คุณจะมีเงินครบก็มีโอกาสมากขึ้น

เห็นไหมครับถ้ารู้เร็วอ่ะมันไม่ต้องเครียด

ถ้ารู้ช้านี่สิควรเครียด

แต่ยังไงก็ตาม เห็นด้วยไหมครับ

ถึงเครียดก็ต้องทำ ไม่เครียดก็ต้องทำ...จริงป่ะ


4 views0 comments
bottom of page