ปัญหาของคนมีเงินในยุคที่ดอกเบี้ยธนาคารต่ำเตี้ยติดดิน

คือจะเอาเงินไปไว้ที่ไหนดีถึงจะได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้น

ทำยังไงถึงจะมีรายได้จากการลงทุนสม่ำเสมอ

จะลงทุนในหุ้นเพื่อได้ปันผลก็ไม่กล้าเสี่ยง

และดูเหมือนเข้าใจยากเหลือเกิน

จะปล่อยกู้กินดอกก็กลัวถูกเบี้ยว

แล้วจะทำยังไงดีถึงจะมีรายได้ประจำจากการลงทุน

วิธีหนึ่งที่คนมีเงินเยอะๆนิยมทำกันคือการมีอสังหาริมทรัพย์

อย่างที่ดิน คอนโด อพาร์ทเม้นท์ ให้เช่า

แต่ก็ติดตรงที่ใช้เงินเยอะเหลือเกิน

และต้องมีการบริหารจัดการอีก

แต่วันนี้คุณมีโอกาสแล้วครับ

ที่จะเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ๆ

เช่นห้างสรรพสินค้า ศูนย์ประชุม โรงแรม อาคารสำนักงาน

โรงงานคลังสินค้า เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์

หรือแม้แต่เป็นเจ้าของสนามบิน!!! น่าสนใจไหมครับ

แล้วที่เจ๋งกว่าการได้เป็นเจ้าของคือ

มีคนคอยบริหาร และเก็บผลประโยชน์เช่นค่าเช่า

ให้เราด้วยโดยที่เราไม่ต้องเข้าไปยุ่งยากอะไร

ยิ่งดีไหมครับ

และที่สำคัญคุณไม่ต้องใช้เงินเป็นล้านๆเอาไปลงทุน

ใช้เงินลงทุนขั้นต่ำแค่ 10,000 บาทก็ลงทุนได้แล้ว

คุณว่ายิ่งน่าสนใจไหมครับ

ผมกำลังพูดถึงเครื่องมือทางการเงินตัวหนึ่ง

ที่เปิดโอกาสให้เราได้รับผลประโยชน์ในรูปแบบเงินปันผล

ที่ได้มาจากผลกำไรของการเก็บค่าเช่า

ในอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ๆ ที่ผมได้พูดถึง

ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการมีรายได้ประจำจากการลงทุน

เครื่องมือการเงินตัวนี้คือ

กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ

“ REIT " (Real Estate Investment Trust)

ที่เป็นภาคต่อของ

"กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund)" ครับ

กองทุนรวมประเภทนี้ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

โดยผู้ลงทุนจะได้เงินปันผลจากกองทุนทุกๆ 3เดือน

ซึ่งตามกฎแล้วกองทุนจะต้องจ่ายเงินปันผล

ไม่ต่ำกว่า 90% ของกำไร จากค่าเช่าในอสังหาริมทรัพย์นั้น

ซึ่งที่ผ่านมากองทุนอสังหาฯบ้านเราได้เงินปันผลไม่เลวเลย

คือ 6-7% ต่อปีมีให้เห็นกันอยู่มากมายครับ

กองทุนประเภทนี้ได้รับความนิยม

และเป็นที่แพร่หลายอย่างมากในต่างประเทศ

และเชื่อว่าจะได้รับความนิยมอย่างสูงในบ้านเราต่อไป

กองทุนประเภทนี้มีระดับความเสี่ยง

ต่ำกว่าหุ้นแต่สูงกว่าตราสารหนี้

โดยมี 3ประเภทตามสิทธิในทรัพย์สินคือ

แบบ Leasehold เรียกภาษาชาวบ้านว่าแบบเซ้ง

แบบ Freehold แบบเป็นเจ้าของทรัพย์สิน

และแบบผสมทั้สองอย่าง

แบบLeasehold มูลค่าจะค่อยๆลดลงตามเวลาสิทธิการเช่า

แต่มีแนวโน้มมีเงินปันผลสูงกว่าแบบ Freehold

แบบFreehold จะได้ประโยชน์จาก

ราคาส่วนต่างราคาหรือ Capital Gain ในระยะยาว

ความเสี่ยงของกองทุนประเภทนี้ก็มีนะครับ

เช่นความเสี่ยงจากการขาดผู้เช่า

ถ้าเป็นพวกห้างฯ ความเสี่ยงตรงนี้ก็ต่ำหน่อย

ยกเว้นถูกม็อบปิด หรือไฟไหม้

ถ้าเป็นพวกโรงแรม อพาร์ทเม้นท์

ก็มีลุ้นเพิ่มหน่อยช่วงLow Season

อีกอย่างที่ต้องคำนึงคือสภาพคล่อง

การที่จะซื้อ จะขายจะต้องขายในตลาดรอง

บนกระดานซื้อขายหลักทรัพย์เหมือนหุ้น

ซึ่งต้องมีคนเสนอซื้อด้วยนะครับถึงจะขายได้

แต่ถ้ากังวลเรื่องสภาพคล่อง

เดี๋ยวนี้ก็มีกองทุนรวมที่ลงทุนในกองทุนรวมอสังหาฯอีกที

ที่สามารถซื้อขายได้ทุกวันเหมือนกองทุนรวมทั่วไป

หากมีเงินเย็นๆ ต้องการมีรายได้ประจำ

เช่นคนที่เกษียณอายุแล้ว

หรือคนที่ต้องการกระจายลงทุนไปสินทรัพย์หลากหลาย

REIT หรือ Property Fund มีความน่าสนใจครับ

ลองศึกษาเพิ่มเติมกันนะครับ