วันก่อนอ่านข่าวกระทรวงการคลังกดปุ่มเริ่มโครงการNano Finance
ปล่อยกู้รายย่อยแบบไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
ให้วงเงินกู้ไม่เกิน 100,000 บาท ดอกเบี้ยไม่เกิน 36% ต่อปี !!!!!
เห็นโครงการแล้วแอบห่วงๆยังไงไม่รู้ครับ
จุดประสงค์โครงการก็ดูเหมือนดีอ่ะครับ
เค้าต้องการให้คนที่มีหนี้นอกระบบที่มีดอกเบี้ยสูง
ให้เข้ามาอยู่ในระบบ
แล้วที่ต้องคิดดอกเบี้ยสูงถึง 36% ก็พอเข้าใจได้
เพราะเป็นการปล่อยกู้โดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
แต่ที่ว่าแอบห่วงๆเพราะว่า
ถึงแม้เจตนาจจะดูดีแต่ผมกลัวว่าหนี้นอกระบบก็จะไม่ลด
แต่จะมีหนี้จาก Nano Finance เพิ่มดิ
แล้วคุณคิดดูสิดอกเบี้ยขนาดนี้คนที่กู้
เค้าจะเอาเงินที่กู้ไปทำการค้าอะไรหรือครับ
ที่จะให้ผลตอบแทนมากกว่า 36%
ในที่สุดก็นำเงินกู้นี้ไปใช้เพื่ออุปโภค บริโภค
แก้ปัญหาชั่วคราว ที่สร้างปัญหาชั่วโคตร
แล้วถ้ามันกู้ง่ายนะผมรับรองเลยว่า
แต่ละคนกู้กันเต็มวงเงิน เต็มเพดานกันแน่
แล้วพอไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันนี่
พอถึงเวลาที่ต้องใช้หนี้ คนกู้ก็ไม่ได้ต้องกังวลอะไร
ในที่สุดก็เริ่มจะเป็นหนี้เสีย
เสียทั้งนอกระบบ ในระบบเลยทีนี้
จริงๆแล้วส่ิงที่ทางรัฐหรือใครก็ตามน่าจะส่งเสริมคือ
ความรู้ทางการเงินอย่างถูกต้อง
หาวิธีที่จะหารายได้เพิ่มและลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น
ผมเข้าใจนะครับว่าคนที่เค้าขาดเงินหรือเค้ามีหนี้
เค้าต้องการเงินจริงๆที่จะไปแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของเค้า
แต่การแก้ปัญหาจริงๆ ไม่ควรเป็นแค่การแก้ปัญหาระยะสั้น
เพื่อสร้างปัญหาในระยะยาว
บางคนที่อ่านบทความนี้ก็อาจบอกว่าไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับตัวเองเลย
เพราะตัวเองไม่ได้เป็นหนี้นอกระบบ
หรือกลุ่มเป้าหมายของ Nano Finance
ใช่ครับมันอาจไม่ใช่เรื่องของคุณ
แต่มันก็เป็นความรู้เป็นบทเรียนที่ดีเรื่องการเงิน
ที่คุณต้องใช้เตือนตัวเอง
เพื่อไม่พาตัวเองเข้าไปติดกับดักเรื่องหนี้แบบนี้เด็ดขาดครับ
เพราะถ้าคุณจัดการเรื่องหนี้ไม่ได้
มันก็หมายความว่าคุณจะไม่มีทางเลย
ที่จะมีชีวิตทางการเงินที่ดีในอนาคตครับ