"ผมไม่เคยพยายามทำเงินจากตลาดหุ้น
ผมซื้อหุ้นบนสมมุติฐานที่ว่า
ตลาดจะปิดในวันพรุ่งนี้และไม่เปิดไปอีก5ปี"
ประโยคนี้เหมือนเป็นประโยคทองที่ผมใช้เตือนตัวเอง
เวลาที่ผมจะลงทุนอย่างการลงทุนในกองทุนหุ้น
แนวคิดแบบนี้ของนักลงทุนที่ได้ชื่อว่ามีความสำเร็จที่สุดในโลก
อย่างวอเร็น บัฟเฟตต์ มีนัยสำคัญครับ
มันบอกถึงสไตล์การลงทุนของเขาที่แสดงว่า
เข้าไม่ได้ซื้อตัวหุ้นแต่เขากำลังซื้อในกิจการของหุ้นนั้น
เขาไม่ได้พยายามที่จะเล่นกับตลาดโดยมองสั้นๆ
แต่เขามองไปถึงปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจระยะยาว
มันเป็นแนวคิดที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ
ที่เชื่อว่าธุรกิจที่ดีจะเติบโตในอนาคต
ราคาของหุ้นวันนี้ไม่ได้สะท้อนมูลค่าในอนาคตของกิจการ
หากคุณเลือกธุรกิจที่คุณจะร่วมลงทุนอย่างดีแล้ว
ไม่ว่าระหว่างทางราคามันจะเป็นอย่างไร
ธุรกิจมันก็ยังเติบโตอยู่เหมือนเดิม
เรือ่งนี้มันสะท้อนออกมาจากผลตอบแทนของหุ้นไทยในแต่ละปี
แต่เงินปันผลของกิจการไม่มีติดลบ
มีแต่จะจ่ายปันผลมาก หรือน้อยเท่านั้น
ถ้าคุณจะลงทุนและคุณเชื่อในแนวคิดนี้ของวอเร็น
คุณต้องปิดหู ปิดตาไม่ต้องสนใจการขึ้นๆลงๆของราคาหุ้นในระหว่างทาง
ไม่ต้องสนใจว่าตลาดจะคิดยังไงกับหุ้นของคุณในปีที่1- 4
ค่อยไปสนใจในวันที่คุณจะขายใน5ปีข้างหน้า
ทุกวันนี้แนวคิดแบบนี้ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น
จากนักลงทุนในปัจจุบันที่ต้องการลงทุนในระยะยาว
หลายๆกองทุนหุ้นก็ใช้แนวคิดแบบนี้ในการเลือกหุ้น
เพื่อการลงทุนเหมือนกับวอเร็นเหมือนกัน
คุณจะใช้วิธีแบบนี้ลงทุนได้คุณต้อง
เลือกหุ้นที่มีพื้นฐานที่ดี
หรือเลือกกองทุน ก็เป็นกองทุนที่คุณเลือกดีแล้ว
เงินที่เอามาลงทุนเป็นเงินเย็นที่ไม่ใช่เงินที่ต้องหวังกินใช้ในเวลาสั้นๆ
และต้องอดทนหรือไม่ต้องสนใจกับความผันผวนระหว่างทางให้ได้
ถ้าใครอยากให้เงินทำงานให้คุณโดยไม่ต้องเครียด
แค่วางเงินให้ถูกที่แล้วเอาเวลาของคุณ
ไปทำมาหากินในงานที่คุณถนัด
แล้วรอต้นเงินของคุณออกดอกออกผล ก็แค่นั้นครับ