ผมจำได้ดีในยุคปี40 ตอนวิกฤติต้มยำกุ้ง
คำพูดวลีหนึ่งที่ฮิตมากสมัยนั้น
สำหรับลูกหนี้ที่ไม่ได้คืนหนี้ชอบพูดคือ
"ไม่หนี ไม่มี ไม่จ่าย"
ต้นตอของผู้ประกาศใช้วลีนี้
เพื่อที่จะทำให้เจ้าหนี้เข้าใจอย่าเพิ่งมาทวงหนี้
ให้เค้าเอาเงินที่มีไปใช้ในการทำธุรกิจก่อน
จะได้มีเงินกำไรเหลือมาคืนเจ้าหนี้
ระยะหลังๆผมเห็นคนที่เป็นหนี้หลายๆคนชอบพูดวลีนี้
พูดออกมาไม่ใช่เหตุผลเดียวกับเจ้าของวลี
แต่พูดออกมาเหมือนจะแสดงความแน่ของตัวเอง
ว่าตัวเองไม่กลัวเจ้าหนี้นะ
มีอะไรป่ะข้าไม่หนี ไม่มี ไม่จ่ายอ่ะจะทำไม
ผมว่ามันไม่น่าจะถูกต้องนะครับที่คิดแบบนี้
คนมีหนี้ยังไงๆก็ต้องใช้หนี้ครับ
ไม่ใช่ไม่ใช้แล้วยังมาพูดให้ดูดีดูแน่อีก
หนี้เหล่านี้เราเองเป็นผู้ก่อ
เราเองก็ควรจะเป็นผู้แก้ครับ
การเผชิญหน้ากับความจริงเป็นเรื่องที่ดี
แต่ไม่ใช่การเผชิญหน้ากับความจริงว่า
ฉันไม่มีฉันก็เลยไม่จ่าย
สิ่งที่คนเป็นหนี้ต้องมีคือความตั้งใจที่จะจ่ายหนี้
หยุดการก่อหนี้เพิ่มโดยเด็ดขาด
เร่งหารายได้เพิ่ม เร่งลดรายจ่าย
จะได้มีเงินเหลือมาจ่ายคืนหนี้
แต่ถ้าพยายามเพิ่มรายได้ก็แล้ว
พยายามลดรายจ่ายก็แล้ว
แต่ก็คงยังมีเงินไม่พอมาจ่ายหนี้ได้
คุณก็ควรจะมองหาวิธีการอื่น
เช่นการย้ายหนี้จากหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงไปดอกเบี้ยต่ำ
อย่างรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อเอาเงินบางส่วนมาจ่ายหนี้ดอกเบี้ยสูง
หรือขอความช่วยเหลือจากคนที่ใกล้ชิดเรา
หยิบยืมเงินมาคืนหนี้ดอกเบี้ยสูง
แล้วอย่าลืมที่จะไปทยอยคืนเค้าด้วยนะครับ
หรืออีกวิธีหนึ่งในการจัดการเรื่องหนี้คือ
การสำรวจตัวเองว่า ขณะนี้คุณมีทรัพย์สินอะไรบ้าง
ที่สามารถขายได้เพื่อนำเงินไปคืนเจ้าหนี้
แต่ถ้าคุณทำทุกวิถีทางแล้วก็ยังไม่สมารถคืนนี้ไหวอีก
สิ่งที่คุณต้องทำคือการเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหนี้
พูดคุยหาวิธีการที่เป็นไปได้ในการคืนหนี้
เจ้าหนี้จริงๆแล้วเค้าไม่ได้ต้องการ
ที่จะยึดหลักทรัพย์คำ้ประกัน หรือฟ้องร้องใครหรอกครับ
เค้าเพียงต้องการที่จะได้เงินเค้าคืนเท่านั้น
ต่อไปนี้เห็นใครที่พูดวลี
"ไม่หนี ไม่มี ไม่จ่าย"
ช่วยเพิ่มคำนี้ต่อไปด้วยนะครับว่า
"ไม่ถูก"
ไม่หนี ไม่มี ไม่จ่าย... ไม่ถูกครับ