เวลาที่ใครบางคนรู้ว่ามีใครเจ็บป่วยนอนโรงพยาบาล
โดยเฉพาะเป็นโรคร้ายเช่นโรคมะเร็ง,โรคหัวใจ
คุณว่าคนส่วนใหญ่ที่ไปเยี่ยมหรือคนที่รู้ข่าวเค้า
นอกจากจะถามไถ่อาการหรือการรักษาจากญาติหรือคนป่วยแล้ว
เค้ามักจะถามอะไรอีกครับ
เวลาที่ใครบางคนรู้ว่ามีหัวหน้าครอบครัวที่มีลูกและครอบครัวที่เค้ารัก
ต้องจากไปก่อนวัยอันควร
นอกจากการแสดงความเสียใจ
คุณว่าคนส่วนใหญ่เค้าจะถามญาติหรือครอบครัวเค้าอย่างไรครับ
เห็นด้วยไหมว่าคำถามที่เรามักได้ยินบ่อยๆคือ
มีประกันหรือเปล่า หรือมีประกันเท่าไหร่ จริงไหม
คนส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับประกันก็ต่อเมื่อ
มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นกับเค้า หรือคนรอบข้างเค้า
แต่จะมีใครสักกี่คนที่เค้ารู้ว่า
เค้าควรมีทุนประกัน หรือประกันสุขภาพเท่าไหร่ว่าม๊ะ
เวลาที่คนจะซื้อประกันคนมักจะคิดว่าจะซื้อเบี้ยเท่าไหร่
แทนที่จะถามว่าตัวเองควรมีทุนประกันเท่าไหร่
หรือควรมีความคุ้มครองสุขภาพเท่าไหร่
เวลาคนมาขายประกันก็มักจะดูว่าลูกค้าน่าจะซื้อเบี้ยได้เท่าไหร่
แทนที่จะดูว่าลูกค้าควรมีทุนประกันเท่าไหร่
ควรมีความคุ้มครองอะไรบ้าง
จริงๆแล้วสิ่งที่คุณควรคิดถึงเวลาที่คุณจะซื้อประกัน
คือคุณควรมีทุนประกันเท่าไหร่
ทุนประกันที่คนๆหนึ่งควรมีคือ
จำนวนเงินที่คนๆหนึ่งที่รับผิดชอบครอบครัวหรือคนที่เค้ารักต้องมี
หากเค้าต้องจากไป
ได้แก่ค่าใช้จ่ายในอนาคตของครอบครัว
เช่นค่ากินค่าอยู่ ทุนการศึกษาในอนาคตของบุตร
และภาระหนี้สินที่คงค้างอยู่เช่นหนี้บ้านคงค้าง
ส่วนประกันสุขภาพและความคุ้มครองโรคร้ายแรง
คุณควรจะดูว่าหากต้องเจ็บป่วย
และต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลที่คุณใช้ประจำ
ค่าใช้จ่ายที่น่าจะต้องเตรียมควรเป็นเท่าไหร่
จำนวนเงินที่ต้องมีไว้ดูแลตัวเองและครอบครัว
ระหว่างที่ต้องพักรักษาตัว ทำงานไม่ได้ควรมีเท่าไหร่
จะซื้อประกันคราวหน้า
อย่าคิดแค่เบี้ยที่จะต้องจ่ายเท่านั้นนะครับ
ไหนๆจะซื้อแล้ว ซื้อให้ได้ประโยชน์เต็มที่ด้วย
จะได้ไม่ต้องมาเสียดายที่ซื้อไว้น้อยเกินไป
ในวันที่ต้องใช้ประโยชน์ของประกัน
ไหนๆจะทำต้มยำก็อย่าเสียดายมะนาวเลยครับ