2-3วันนี้ผมพาแม่มาไหว้พระที่อินเดียครับ
ผมมาอินเดียมาตามรอยบาทสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ตามสังเวชนียสถาน4คือที่ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน
มา17ครั้งแล้วรับ
แต่ครั้งนี้ผมมีเวลาจำกัดเลยมาที่เดียวคือที่พุทธคยา
สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าของเราครับ
ที่พุทธยามีเจดีย์พุทธคยาที่ตั้งตระหง่านอย่างสวยงาม
และมีต้นพระศรีมหาโพธิที่เป็นต้นที่4 ทีปลูกมาจากหน่อต้นโพธิที่พระพุทธเจ้านั่งประทับในวันที่ท่านตรัสรู้
ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิเป็นสถานที่ๆผมประทับใจกับการมาไหว้พระที่อินเดียทุกครั้ง
สิ่งที่ผมเห็นคุ้นตาคือเห็นความศรัทธาของชาวพุทธทั่วโลก
ที่มารายล้อมต้นพระศรีมหาโพธิและเจดีย์พุทธคยา
มาสวดมนต์ มาปฎิบัติธรรม กันตลอดทั้งวัน
อีกสิ่งหนึ่งที่ผมเห็นทุกครั้งที่มาคือ
การร่วงหล่นของใบโพธิจากต้นพระศรีมหาโพธิ
เมื่อมีใบโพธิตกมาใกล้ใคร ก็จะมีคนมารีบเก็บ
เพื่อเก็บเป็นที่ระลึกหรือเก็บนำไปบูชา
ผมเฝ้ามองใบโพธิที่ล่วงหล่นแล้วผมก็ได้เห็นแง่คิดดีๆ
เสมือนต้นพระศรีมหาโพธิกำลังสอนกำลังเตือนสติผม
ท่านสอนและเตือนสติให้ผมเห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกวันนึงก็ต้องร่วงสลายหายไป
ไม่ว่าจะเป็นชีวิตของเราหรือชีวิตของใคร
เหมือนดั่งใบโพธิที่ล่วงลงสู่พื้นทุกคืนวัน
ใบโพธิจากต้นพระศรีมหาโพธิล่วงลงสู่พื้นมีแต่คนรีบหยิบไปบูชา
แต่ทำไมใบโพธิจากต้นข้างๆและใบโพธิจากต้นอื่นๆทั่วไป
ตกลงสู่พื้นกลายเป็นขยะให้คนเค้าเก็บเอาไปทิ้ง
มันน่าคิดนะครับ
ที่ใบโพธิจากต้นพระศรีมหาโพธิล่วงลงสู่พื้นแล้วมีคนเก็บไปบูชา
ก็เพราะต้นโพธิต้นนี้ให้ร่มเงาแก่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในวันที่ท่านตรัสรู้
ซึ่งสิ่งที่ท่านตรัสรู้เป็นประโยชน์แก่มวลมนุษยชาติมากมาย
ก็เปรียบเสมือนร่มเงาของต้นพระศรีมหาโพธิได้ให้ความร่มเย็นให้กับผู้คนมากมาย
แต่ใบโพธิจากต้นโพธิต้นอื่นก็คือใบจากต้นไม้ธรรมดาๆต้นหนึ่งที่อาจให้ประโยชน์เพียงแค่ร่มเงากับคนไม่กี่คนเท่านั้น
มันคือคุณค่า คุณความดี ต่างหาก
ที่ทำใบโพธิจากต้นพระศรีมหาโพธิ
และใบโพธิจากต้นอื่นๆมีความแตกต่างกัน
ต้นพระศรีมหาโพธิสอนผมครับ
สอนผมเตือนผมว่า
วันนึงชีวิตของผมก็ต้องร่วงลงไปเหมือนใบโพธิที่ร่วงลง
แต่ผู้คนจะระลึกถึงเราหรือเห็นเราเป็นเพียงเศษใบไม้ใบนึง
ก็ขึ้นอยู่กับคุณความดี และการสร้างประโยชน์ให้กับผู้คนของเรา
ผมก้มลงกราบสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
และกราบต้นพระศรีมหาโพธิอีกครั้งด้วยความตื้นตันสุดหัวใจกับสิ่งที่ท่านสอนผมในครั้งนี้ครับ