top of page
Writer's pictureMongkol Lu

กลยุทธการลงทุนที่ทำให้คุณมีโอกาสสำเร็จสูง

“การลงทุนมีความเสี่ยง

แต่ความเสี่ยงที่แท้จริงของการลงทุนคือ

การขาดความรู้จริงในสิ่งที่ลงทุน”

สิ่งที่แตกต่างของนักลงทุน กับนักเสี่ยงโชค

ต่างกันตรงความรู้นี่หล่ะครับ

คนที่จะเรียกตัวเองเป็นนักลงทุนต้องมีความรู้ในสิ่งที่ลงทุนครับ

และความรู้สำคัญเรื่องหนึ่งที่นักลงทุนทุกคนควรรู้คือ

วิธีการในการจัดการเกี่ยวกับความเสี่ยงของการลงทุน

จากการศึกษาการลงทุนจากนักลงทุนที่สำเร็จในโลกพบว่า

วิธีการจัดการความเสี่ยงที่มีผลต่อความสำเร็จของการลงทุนมากที่สุดคือ

“การกระจายการลงทุน”

ทำไมวิธีนี้จึงได้ผลดีที่สุดหล่ะ

ก็เพราะมันไม่มีการลงทุนในสินทรัพย์ใดที่มีผลตอบแทนที่ดีตลอดเวลาไงครับ

ในแต่ละช่วงเวลา หรือแต่ละปี

บางปีหุ้นก็ดี บางปีพันธบัตรดี บางปีทองดี บางปีอสังหาฯดี

หรือบางปีแม้เงินฝากกับดีกว่าสินทรัพย์ทุกอย่าง

หากคุณรู้ว่าปีไหน หรือช่วงไหน สินทรัพย์ไหนจะมา

คุณก็คงเลือกสินทรัพย์แค่บางอย่าง

และทุ่มเงินลงทุนไปในสินทรัพย์ประเภทนั้นใช่ไหมครับ

แต่ความเป็นจริง

คุณไม่มีทางทำนายหรือคาดการณ์ได้ถูกต้อง 100%หรอกครับ

ดังนั้นสิ่งที่น่าจะเป็นคือ

คุณควรที่จะลงทุนในสินทรัพย์หลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน

โดยเฉพาะสินทรัพย์ที่มีทิศทางของผลตอบแทนตรงข้ามกัน

อย่างหุ้นและตราสารหนี้

ซึ่งเค้าเรียกวิธีนี้คือการจัดสรรสินทรัพย์ หรือ Asset Allocation

วิธีการนี้อาจไม่ได้ทำให้คุณได้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด

แต่เป็นวิธีสำคัญที่จะทำให้พอร์ตการลงทุนของคุณ

เวลาที่มันตก มันจะได้ไม่ตกแรงจนเกินไป

ทำให้คุณพอที่จะทนได้กับความผันผวนแรงๆระหว่างทางได้

คราวนี้เราควรที่จะลงทุนในแต่ละสินทรัพย์ในสัดส่วนเท่าไรหล่ะ

มันก็ขึ้นกับความเสี่ยง แลผลตอบแทนที่คุณคาดหวังไงครับ

หากคุณทนรับความผันผวนอย่างแรงระหว่างทางไม่ค่อยได้

หรือคุณมีระยะเวลาลงทุนไม่นานนัก

สิ่งที่คุณควรจะทำคือลงทุนส่วนใหญ่

ในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนต่ำเช่นพันธบัตร หรือตราสารหนี้

และมีสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง

แต่มีโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูงอย่างหุ้น ในสัดส่วนที่น้อยกว่า

เช่นมีหุ้นในสัดส่วนไม่เกิน10% ถึง 50% ของมูลค่าที่ลงทุน

หากคุณมีระยะเวลาลงทุนที่ยาวเช่น 5-10ปี

คุณเข้าใจและยอมรับความผันผวนระหว่างทางการลงทุนได้

คุณก็อาจเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูง

แต่มีความผันผวนระหว่างทางที่สูงอย่างหุ้น

ในสัดส่วนที่มากกว่าสินทรัพย์ตราสารหนี้

เช่นมีหุ้นในสัดส่วนมากกว่า 50%ของมูลค่าที่ลงทุน

การจัดสรรการลงทุน

นอกจากจะกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่แตกต่างกันแล้ว

ในสัดส่วนสินทรัพย์ประเภทเดียวกันอย่างหุ้น

ก็ยังอาจกระจายการลงทุนไปสู่หลายๆภูมิภาค

หรือหลายๆอุตสาหกรรมเพื่อการจายความเสี่ยงได้อีกด้วย

หากคุณเป็นนักลงทุนทั่วไป

และไม่รู้ว่าจะกำหนดและบริหารสัดส่วนของสินทรัพย์ยังไง

ผมแนะนำให้ลงทุนใน”กองทุนรวมผสม”ครับ

ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ใช้กลยุทธการลงทุน”การจัดสรรสินทรัพย์”

ที่ง่ายสำหรับนักลงทุนที่ไม่ต้องการความผันผวนระหว่างทางสูงครับ

ขอให้ประสบความสำเร็จในการลงทุนกันนะครับ


6 views0 comments
bottom of page