กลยุทธการลงทุนที่สำคัญมากๆ
ที่จะช่วยให้คุณมีโอกาสสำเร็จคือ
การจัดสรรการลงทุน หรือAsset Allocation
พูดภาษาที่คุณคุ้นเคยคือ”อย่าใส่ไข่ในตระกร้าใบเดียว”
เหตุผลที่ผู้เชี่ยวชาญด้านลงทุนทั่วโลกแนะนำแบบนี้
ก็เพราะว่าไม่มีสินทรัพย์ใดให้ผลตอบแทนที่ดีตลอดเวลา
หลักการเรื่องนี้คือการเลือกสินทรัพย์ลงทุนผสมกัน
โดยเฉพาะสินทรัพย์ที่มีทิศทางของผลตอบแทนตรงข้ามกัน
เช่นตราสารทุน อย่างหุ้นสามัญ
กับตราสารหนี้ อย่างพันธบัตร หรือหุ้นกู้
แล้วทำไมถึงต้องมีหลากหลายสินทรัพย์ด้วยหละ
ก็เพราะมันทำให้คุณทนได้ยามที่สินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นผันผวนไง
ช่วงหุ้นตกก็ยังมีตราสารหนี้
ช่วยให้พอร์ตของคุณไม่ตกไปเยอะจนคุณทนไม่ไหว
ซึ่งในปีที่หุ้นมีผลตอบแทนลด
พันธบัตร หรือหุ้นกู้มักมีผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น
การจะลงทุนโดยการจัดสรรสินทรัพย์
ก็ต้องมีการกำหนดสัดส่วนของสินทรัพย์ให้เหมาะสม
แต่เราจจะกำหนดเท่าไหร่หล่ะ
แล้วเวลาผ่านไปสัดส่วนมันเปลี่ยนแล้วจะปรับยังไง
บางครั้งมันก็ไม่ง่ายเหมือนกัน
กองทุนรวมประเภทหนึ่งที่ผู้จัดการกองทุนใช้กลยุทธนี้คือ
“กองทุนรวมผสม”
ผสมระหว่างหุ้น กับพันธบัตรหรือหุ้นกู้ หรือเงินสด
กองทุนรวมผสมมี 2ประเภทคือ
แบบกำหนดสัดส่วนการลงทุนแน่นอน (Balance Fund)
กองทุนพวกนี้กำหนดไปเลยว่าจะมีหุ้นเท่าไร ตราสารหนี้เท่าไร
ชื่อกองทุนพวกนี้จะบอกสัดส่วนการลงทุนไปเลยเช่น 70/30
กองทุนพวกนี้เวลาผ่านไปสัดส่วนเปลี่ยน
ผู้จัดการกองทุนเค้าก็จะปรับสัดส่วน
ให้อยู่ในที่เค้ากำหนดตลอดเวลา
อีกแบบคือกองทุนรวมผสมแบบยืดหยุ่น (Flexible Fund)
กองทุนแบบนี้ต้องอาศัยฝีมือของผู้จัดการกองทุน
ที่จะกำหนดสัดส่วนของหุ้นและตราสารหนี้
ในแต่ระยะเวลาให้เหมาะสมเช่น
หากเค้ามองว่าช่วงนี้หุ้นน่าจะดี เค้าก็จะเพิ่มสัดส่วนของหุ้น
หากมองว่าหุ้นน่าจะไม่ดี เค้าก็จะลดสัดส่วนหุ้นลง
กองทุนประเภทนี้มีหลายกองในตลาดเลยนะครับ
วิธีเลือกก็ให้เข้าไปดูสัดส่วนของสินทรัพย์ลงทุน
ว่ามีหุ้นและราสารหนี้เป็นสัดส่วนเท่าไร
ดูการกระจายตัวของหุ้นและตราสารหนี้
ถ้าไม่อยากเสี่ยงสูงก็เลือกกองทุนที่มีจำนวน
ของหุ้นหรือตราสารหนี้ที่เยอะกว่า มีการกระจายตัวมากกว่า
ดูความสม่ำเสมอของผลตอบแทนย้อนหลังระยะยาว
เลือกตัวที่มีผลตอบแทนชนะบ่อยๆในรอบ5ปีที่ผ่านมา
ดูค่าSharp Ratio ผลตอบแทนต่อหนึ่งหน่วยความเสี่ยง
เลือกตัวที่มีค่านี้ที่สูงกว่า
กองทุนนี้เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการความเสี่ยงที่สูง
แต่ต้องการได้ผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุน
หรือเหมาะกับคนที่ต้องการให้มีคนช่วยปรับบสัดส่วนการลงทุน
ให้เหมาะกับสถานการณ์การลงทุนตลอดเวลาครับ