"ผลลัพธ์เฉพาะประการหนึ่งเกิดจากการกระทำอย่างหนึ่ง

ทุกๆการปฏิบัติ มีผลของการปฏิบัติกลับมาสู่เสมอ"

พระพุทธเจ้าท่านตรัสสั่งสอนเรามากว่า2,500ปีแล้ว

ถึงกฎแห่งกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

ไม่มีความบังเอิญในสังสารวัฎ

เราทำสิ่งใดเราต้องได้รับผลของสิ่งนั้น

คนสำเร็จบอกถึง

กฎแห่งการกระทำและผลที่ได้รับ Law of Cause and Effect

ที่บอกว่าความสำเร็จไม่ใช่สิ่งบังเอิญ

ความสำเร็จในชีวิตเกิดจากการกระทำอะไรบางอย่าง

โดยเฉพาะการทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า

จนกระทั่งเราประสบความสำเร็จ

พระพุทธเจ้าสอนสั่งผู้คนแบบนี้

คนสำเร็จบอกผู้คนแบบนี้แบบนี้

แต่เราก็ยังเห็นผู้คนหลายคน

ที่อยากได้ผลแต่ไม่อยากทำเหตุ

อยากมีเงิน แต่ก็ยังไม่ขวนขวายดิ้นรนทำงานหาเงิน

อยากมีเงินเก็บ แต่ก็ยังสนุกกับการใช้เงิน

อยากปลดหนี้ แต่ก็ยังใช้เงินฟุ่มเฟือย

อยากมีสุขภาพที่ดี แต่ก็ยังขี้เกียจลุกมาออกกำลังกาย

อยากมียอดขาย แต่ก็ไม่อยากออกไปหาลูกค้า

อยากก้าวหน้าในงาน แต่ก็ยังทำงานช้าวชามเย็นชาม

เรายังคงเห็นผู้คนที่อยากได้แต่ไม่อยากทำเสมอๆ

เรายังคงเห็นผู้คนที่ผู้คนที่หวังผลโดยไม่ทำเหตุเสมอๆ

เรายังคงเห็นผู้คนที่ทำน้อยแต่อยากได้ผลเยอะเสมอๆ

ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ครับ

เค้าเหล่านั้นไม่เคยได้ยินคำสอนของพระพุทธเจ้า

หรือคนที่ประสบความสำเร็จเค้าบอกกล่าวหรือ

ผมว่าไม่นะ

ผมว่าใครๆก็เคยได้ยินมาแล้วทั้งนั้นหละ

แล้วที่เป็นแบบนี้เป็นเพราะเค้าไม่เชื่อเหรอ

ผมว่าเค้าก็เชื่อเหมือนกันนะ

เค้าทั้งรู้ เค้าทั้งเชื่อแหละ

แต่มันก็ยังอดเป็นอย่างนั้นไม่ได้

ที่ยังคงเป็นแบบนั้นก็เพราะ

การทำเหตุแห่งความสำเร็จนั้น มันไม่ง่ายไงหละ

มันต้องเหนื่อย มันต้องอึด มันต้องใช้เวลานาน

มันต้องใช้พลังกาย มันต้องใช้พลังใจ

อะไรที่ทำแล้วยาก

ทำแล้วฝืนธรรมชาติของคนที่รักความสบาย

คนก็มักจะไม่อยากทำ

แต่ถึงแม้เค้าจะไม่อยากทำ

เค้าก็ยังคงได้รับผลลัพธ์จาก

การไม่อยากทำของเค้าอยู่ดี

มันหนีกฎข้อนี้ไปไม่พ้นอยู่ดีครับ