ในการตรวจวัดสุขภาพทางการเงิน
อัตราส่วนทางการเงินตัวนึงที่ใช้วัดประสิทธิภาพของการจัดการทางการเงิน
คืออัตราส่วนการลงทุน (Net Investment Asset to Net Worth Ratio)
ค่ามาตรฐานของอัตราส่วนทางการเงินนี้ควรมากกว่า 50%
ซึ่งหมายความว่าในความมั่งคั่งหรือทรัพย์สินส่วนที่เราเป็นเจ้าของ
เราควรมีทรัพย์สินลงทุนเช่น
พันธบัตร หุ้นกู้ กองทุนต่างๆ หุ้นสามัญ ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ มากกว่า 50% ของสินทรัพย์ที่เรามี
เพราะสินทรัพย์ลงทุนเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง
หากมีอัตราส่วนตัวนี้ต่ำ
นั่นได้แสดงถึงว่าคุณยังมีการบริหารจัดการทางการเงิน
ที่ยังไม่มีประสิทธิภาพมากพอ
เงินของคุณอยู่ในสินทรัพย์ที่มีผลตอบแทนต่ำเกินไป
เช่นอยู่ในรูปแบบเงินฝากธนาคาร
หรืออยู่ในสินทรัพย์ใช้ส่วนตัว
เช่นบ้าน รถ เครื่องประดับ
ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเพิ่มมูลค่า
ในประเทศที่มีความเจริญทางเศรษฐกิจเช่นสิงคโปร์
เงินฝากที่อยู่ในระบบธนาคารมีสัดส่วนประมาณ 20% ของเงินทั้งระบบ
เงินส่วนใหญ่จะอยู่ในสินทรัพย์ลงทุนอื่นๆ
ซึ่งโดยความเป็นจริงแล้วเงินที่เราจะเก็บในรูปแบบเงินฝาก
สำหรับคนทั่วไปควรมีจำนวนที่เพียงพอที่จะหยิบใช้จ่ายง่ายๆ
เพียง 3-6 เดือนในกรณีขาดรายได้ชั่วคราว
เช่นตกงาน เปลี่ยนงาน หรือธุรกิจหยุดชะงักชั่วคราว
หากคุณเก็บในรูปแบบเงินฝากเยอะเกินไป
เงินของคุณก็จะเป็น "เงินขี้เกียจ" หรือ Lazy Money นั่นเอง
ลองตรวจสอบกันดูนะครับว่าตอนนี้เงินส่วนใหญ่ที่คุณมีอยู่
เป็น Active Money หรือ Lazy Money