โลกในอดีต กับโลกในปัจจุบันเปลี่ยนไปคนละเรื่องเลยครับ
คำพูดที่ว่า "ไม่เห็นจะเป็นไรเลย สมัยก่อนยังทำได้เลย"
"เชื่อฉันสิ ฉันอาบน้ำร้อนมาก่อนแก"
คำพูดพวกนี้เอาท์แล้วครับในสมัยนี้
สมัยก่อนเด็กจบใหม่มีบริษัทมาจองตัวก่อนจบ
สมัยนี้เด็กจบใหม่ไม่มีงานทำอยู่ที่บ้านมากมาย
สมัยก่อนเรียนจบตรีดูเท่ห์ ดูดีมีงานทำ
เดี๋ยวนี้จบโท จบเอก มีเกลื่อน แต่ก็ยังไม่มีงานทำเหมือนเดิม
สมัยก่อนทำงานในบริษัทใหญ่ๆมั่นคง อยู่ไปได้จนถึงวันเกษียณ
วันนี้บริษัทใหญ่ๆก็เห็นข่าวปลดคน ลดคนอยู่มากมาย
สมัยก่อนมีเงินฝากแบ็งค์กินดอกสิบกว่าเปอร์เซ็นต์ก็อยู่ไปได้ทั้งชีวิต
สมัยนี้เผลอๆจะไม่มีดอกให้กินแถมอาจต้องเสียค่าฝากอีก
สิ่งที่คนรุ่นนี้เจอ ไม่เหมือนรุ่นพ่อ รุ่นแม่ที่ผ่านมาแล้วครับ
New Normal ระดับปกติแบบใหม่ คือคำพูดประดิษฐ์
ที่อธิบายสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นกับยุคนี้
ไม่ว่าดอกเบี้ยเงินฝาก และตราสารหนี้ที่ตกต่ำ
ผลตอบแทนคาดหวังในสินทรัพย์ต่างๆลดลง
GDP ของทั้งโลกที่มีแนวโน้มตกต่ำ
อัตราการเพิ่มของเงินเดือน โบนัสมีแนวโน้มลดลง
New Normal เป็นเรื่องที่เราอาจรู้สึกว่ายอมรับได้ยาก
แต่ยังไงๆก็คงต้องยอมรับ อยู่ที่ว่าจะแก้ปัญหายังไง
นี่ไง... สร้างงาน สร้างโอกาสมันขึ้นมาเองเลย
การมีอาชีพที่2 ที่3 การมีรายได้หลายๆทาง
และมีอาชีพที่ต้องทำไปทั้งชีวิตคืออาชีพนักลงทุนครับ
โห!!! หลายคนก็คงคิดว่าแหมพูดได้แต่มันทำยากนะ
ก็จริงครับที่ทำยาก เพราะยากก็เลยต้องเก่งไง
ถ้าความสามารถพื้นๆ เหมือนๆคนอื่นเค้า ไม่มีอะไรโดดเด่น
ก็คงยาก และยากมากๆ
คนที่จะอยู่ได้ และอยู่ได้อย่างดีในโลกยุคNew Normal
ต้องเรียนรู้ แต่แค่เรียน แค่รู้ไม่พอ ต้องลงมือทำ และทำเป็นจนเชี่ยวชาญด้วยครับ
ผมขอมโนเรื่องนี้ต่อเลยนะครับ
ในอนาคต ผมเห็นคนเก่งจะยิ่งเก่งขึ้น คนไม่เก่งจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังมากมาย
ถ้าไม่อยากถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ต้องเริ่มทำให้เก่งเดี๋ยวนี้เลยครับ