ผมว่านะเมื่อไรก็ตามที่คุณมีเงิน
แล้วเงินที่คุณมีไม่ได้ใส่ไหฝั่งตุ่มไว้ที่บ้าน
เมื่อนั้นคุณก็กำลังลงทุนอยู่
มันอยู่ที่ว่าคุณลงทุนกับอะไร ผลตอบแทนเป็นเท่าไร
แม้คุณเอาเงินฝากไว้ธนาคารคุณก็กำลังลงทุน
แต่เป็นการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนค่อนข้างต่ำ
แต่ข้อดีก็คือระหว่างทางไม่ผันผวน ขึ้นๆลงๆมากนัก
(เพราะลงมาต่ำมากๆแล้ว55555)
จริงๆแล้วผมว่าหลายๆคนไม่ได้กลัวการลงทุนหรอกครับ
แต่เป็นความเสี่ยงจากการลงทุนต่างหาก
แต่ถ้าคุณเข้าใจและมีความรู้การลงทุนจริง
คุณจะจัดการกับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ครับ
หนึ่งในวิธีลดความเสี่ยงจาการลงทุนที่นักการเงินระดับโลกทุคนแนะนำคือ
“การจัดสรรสินทรัพย์ หรือ Asset Allocation ครับ”
แล้วการจัดสรรสินทรัพย์ หรือ Asset Allocation มันคืออะไรหละ
มันมาจากแนวคิดที่ว่าในแต่ละช่วงเวลา
สินทรัพย์แต่ละประเภทมีผลตอบแทนที่แตกต่างกัน
สินทรัพย์บางอย่างมีผลตอบแทนในทิศทางตรงข้ามกัน
บางสินทรัพย์มีทิศทางของผลตอบแทนไปในทิศทางเดียวกัน
วิธีการที่จะลดความเสี่ยงคือการลงทุนในสินทรัพย์หลายๆชนิดเพื่อกระจายความเสี่ยง
โดยเฉพาะลงทุนในสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มทิศทางของผลตอบแทนต่างกัน
เช่นลงทุนในหุ้นส่วนนึง และตราสารหนี้อย่างพันธบัตรส่วนนึง
วิธีการจัดสรรสินทรัพย์ หรือ Asset Allocation
เป็นวิธีการที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงว่า เป็นปัจจัยสำคัญที่สุด
ที่ทำให้เกิดความสำเร็จในการลงทุนจากนักลงทุนที่สำเร็จทั่วโลก
วิธีนี้ไม่ใช่วิธีที่จะทำให้คุณได้ผลตอบแทนสูงสุด
แต่เป็นวิธีที่คุณจะใช้เพื่อลดความผันผวนของพอร์ตของคุณ
ทำให้นักลงทุนผ่านพ้นช่วงเวลาที่แย่ๆไปได้
แล้วเราควรมีส่วนผสมของสินทรัพย์แต่ละชนิดในพอร์ตการลงทุนเราอย่างไรหล่ะ
เอาแบบนี้นะครับผมมีสูตรคร่าวๆ
จากผู้ก่อตั้งกองทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกองนึงของโลก John Bogle ที่บอกว่า
ในพอร์ตการลงทุนของคุณควรมี
สัดส่วนของสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำเช่นพันธบัตร เท่ากับอายุของคุณขณะนั้นๆ
เช่นหากตอนนี้คุณอายุ 40 ในพอร์ตการลงทุนของคุณ
ควรมีพันธบัตร หรือเงินสด อยู่ในสัดส่วน 40%
ที่เหลือก็อยู่ในสินทรัพย์ความเสี่ยงที่สูงเช่นหุ้น ได้60%
วิธีการจัดสรรการลงทุนแบบนี้มีแนวคิดที่ว่า
เมื่ออายุของนักลงทุนมากขึ้น
จำเป็นต้องให้ความสำคัญของความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน
มากว่าเน้นที่ผลตอบแทนจากการลงทุน
คนที่อายุมากแล้วมีเวลาที่จะรอการฟื้นตัวของหุ้นยามหุ้นตก
น้อยกว่าคนที่อายุน้อย
ลองเอาสูตรนี้ไปใช้ปรับพอร์ตการลงทุนของคุณดูนะครับ
การลงทุนจะได้ไม่เป็นเรื่องน่ากลัวอีกต่อไป