หนึ่งในปัญหาของคนทำธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจSME คือเรื่องของภาษี
ในแต่ละปีเพื่อให้เสียภาษีน้อยลง
ธุรกิจหลายๆธุรกิจก็ต้องทำให้ตัวเลขกำไรสุทธิที่ถูกนำมาคำนวณภาษีลดลง
โดยการหารายจ่ายมาหักจากตัวเลขของรายได้
ถ้าเป็นรายจ่ายตามปกติและสมควรแก่ธุรกิจก็ไม่มีปัญหาครับ
แต่เดี๋ยวนี้มีหลายบริษัทประกันรวมทั้งตัวแทนหลายคนด้วย
ที่นำเสนอเจ้าของธุรกิจเหล่านั้นให้ทำประกันให้เจ้าของหรือกรรมการ
เพื่อนำเอาค่าเบี้ยประกันไปเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัท
โดยเรียกการทำประกันประเภทนี้ว่าการประกันKey Man
ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจเรื่องประกันKey Man ก่อน
วัตถุประสงค์ของแนวคิดนี้คือการทำประกันชีวิตให้กับบุคคลสำคัญของธุรกิจ
ที่หากบุคคลคนนี้เสียชีวิตไปจะมีผลเสียหายต่อธุรกิจ
การจ่ายเบี้ยประกันเป็นนภาระของบริษัท
แต่เบี้ยประกันที่บริษัทจ่ายให้นั้นจะต้องถือเป็นรายได้ของกรรมการหรือKey Manคนนั้นด้วย
แต่จากประสบการณ์ที่ผมพบในตลาด
ผมพบว่าเหตุผลที่ลูกค้าซื้อประกันKey manนั้น
ไม่ได้ต้องการความคุ้มครองใดๆทั้งสิ้น
หวังเพียงแต่จะทำให้เสียภาษีธุรกิจน้อยลง
อันนี้จะโทษลูกค้าฝ่ายเดียวไม่ได้เลยครับ
ต้องโทษคนขายและบริษัทประกันที่ส่งเสริมให้ขายแนวคิดนี้เต็มๆ
มันเป็นแนวคิดที่ใช้ช่องว่างทางกฎหมายล้วนๆ
คิดแต่จะเอาเปรียบประเทศชาติ
ผมเข้าไปดูข้อมูลในเวปไซด์บางบริษัท
ถึงกับเรียกเรียกวิธีนี้ซะสวยหรูว่า”วางแผนภาษี”
วิธีการขายประกันแบบนี้ที่ไม่ได้มองถึงเจตนารมณ์ของการประกัน
คือการโอนย้ายความเสี่ยงหรือลดความเสียหายเลย
มองแต่จะหาทางจ่ายภาษีน้อยลง
และหวังแต่การที่จะขายประกันให้ได้เท่านั้น
โดยใช้เอกสารฎีกา หรือข้อปรึกษาเรื่องภาษีเป็นหลักฐานพยานในการจูงใจให้ทำ
ซึ่งจริงๆแล้วเรื่องการใช้เบี้ยประกันในการมาหักค่าใช้จ่ายบริษัท
อยู่ที่การตีความหรือมุมมองของสรรพากรเขตแต่ละเขต
ที่ทุกวันนี้ยังมีการตีความแตกต่างกัน
คุณลูกค้าที่ทำไปก็ต้องไปวัดดวงกันเอาเอง
ถ้าเป็นเบี้ยประกันเล็กๆน้อยสรรพากรก็อาจมองผ่านๆไป
แต่ถ้าเบี้ยประกันสูงกว่ารายได้ทั้งปีของกรรมการสิครับ
คุณว่ามันสมเหตุสมผลไหม
อย่างที่ผมเจอมาบริษัทประกันบางแห่ง
ออกแบบประกันมาให้ตัวแทนขายได้ยังไงไม่รู้ครับ
ทุนประกัน2ล้านกว่าๆเบี้ยประกันปีละ2ล้าน
มันประกันตรงไหนเนี่ย
ตัวแทนขายไอเดียให้ทำประกันKey Manเบี้ย 2ล้าน
รายได้ของเจ้าของธุรกิจที่ตีเงินเดือนให้ตัวเองปีละล้านกว่าบาท
คุณว่าถ้าคุณเป็นสรรพากรที่ดูแบบละเอียดๆ
คุณว่าเค้าจะเชื่อไหมรายได้ล้านกว่าบริษัทใจดีทำประกันให้2ล้าน
อีกอย่างครับบางรายทำไปทำมาหวังจะประหยัดภาษี
กลายเป็นตัวแทนทำให้ลูกค้าจ่ายภาษีมากขึ้นเข้าไปอีก
เพราะเบี้ยประกันที่บริษัทจ่ายให้ถือเป็นรายได้ของกรรมการ
ทำให้ฐานภาษีของกรรมการขยับบางรายกลายเป็น 30-35%
แต่ภาษีธุรกิจแค่ 20% เท่านั้น
แล้วมันจะประหยัดภาษีตรงไหน
วิธีการที่เรียกว่าประกันKey Manแบบนี้
มันไม่ได้ให้คุณค่ากับใครหรอกครับ
ทั้งคุณค่าของการประกัน คุณค่าของคนขาย คุณค่าของคนซื้อ
มันได้แต่ยอดขายหรือผลประโยชน์ของคนขายและบริษัทที่ขายเท่านั้น
แก่นของประกันชีวิตมันเป็นเครื่องมือการเงินที่ทรงพลังและให้คุณค่า
อย่าทำให้ประกันเป็นแค่เครื่องมือของการเลี่ยงภาษีเลยครับ