ทักษะที่จำเป็นของผู้คนในยุคดอกเบี้ยใกล้ศูนย์ ก็คือ
ทักษะของการเป็นนักลงทุน
หากคุณไม่มีทักษะหรือความรู้เรื่องนี้
บอกได้เลยว่าแม้แต่การจะรักษามูลค่าของเงินยังยากเลยครับ
แต่ก็มีคนจำนวนมากครับที่ยังไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ทักษะเรื่องนี้ตอนนี้
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเรียนรู้ก่อนไม่ได้นะครับ
แล้วคนที่ยังไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะเรื่องนี้คือใครหล่ะ?
ผมมักได้รับคำถามบ่อยๆเรื่องการลงทุนจากแฟนเพจบ้าง จากคนที่รู้จักผมบ้าง
ว่าจะลงทุนอะไรดี จะซื้อกองทุนหุ้นตัวไหน หรือจะซื้อหุ้นอะไรดี
ซึ่งสิ่งที่ผมมักจะถามกลับไปเสมอๆก็คือ
เค้ามีเงินส่วนอื่นๆแล้วหรือยัง
เช่นเงินฉุกเฉินที่เค้าจะอยู่ได้ 6 เดือนหากตกงานหรือขาดรายได้ชั่วคราว
เงินที่ต้องเก็บไว้สำหรับค่าใช้จ่ายในเวลาใกล้ๆนี้
หรือมีหนี้สินคงค้างที่ต้องจ่ายหรือเปล่า
หากผมพบว่าคนที่ถามผมนั้นยังไม่จัดการเรื่องเหล่านี้เลย
ผมจะไม่ยอมแนะนำให้ไปลงทุนอะไรทั้งนั้น
แต่จะแนะนำให้เค้าไปขยันทำงานหาทางเพิ่มรายได้ก่อน
เมื่อมีรายได้เพิ่มแล้วก็หัดเก็บออมให้เป็นประจำให้ได้
เมื่อมีเงินก้อนใหญ่มากขึ้นหลังจากเตรียมเงินที่ผมบอกให้เตรียมเรียบร้อยแล้ว
ค่อยกลับมาถามใหม่เรื่องการลงทุน
หลายๆคนพาลไม่พอใจผมอีกที่แนะนำอย่างนี้
ทำไมผมถึงแนะนำอย่างนั้นครับ
ก็เพราะหากเค้ายังไม่ได้เตรียมเงินที่จำเป็นหรือเร่งด่วนเลย
เค้าจะมาลงทุนโดยสบายอก สบายใจได้ยังไง
และอีกอย่างนะครับ
ด้วยจำนวนเงินที่เค้ามี อย่างบางคนมีเงินเก็บอยู่ 5-6หมื่นบาท
ให้ทำผลตอบแทนได้ 20%ต่อปีเลย
(ซึ่งเป็นไปได้ยากมากๆ ถึงได้แต่ก็คงไม่สามารถทำได้ทุกปี)
เค้าก็ได้ผลตอบแทนเพียงปีละ 10,000-12,000 บาท
ซึ่งไม่ได้ทำให้ชีวิตเค้าเปลี่ยนแปลงอะไรเลย
วันก่อนผมฟังรายการวิทยุรายการหนึ่ง
ที่มีดอกเตอร์ชื่อดังมาตอบคำถามเรื่องการเงินให้กับผู้คน
มีเคสๆหนึ่งส่งจดหมายมาถามเรื่องอยากเอาเงินไปลงทุน
โดยให้ข้อมูลว่าตอนนี้อายุ 40 มีลูก 2คน
มีเงินเก็บฝากธนาคารไว้ 30,000 บาท
รู้สึกว่าธนาคารให้ดอกเบี้ยน้อยเหลือเกิน
เลยอยากเอาเงินที่มีไปลงทุน
เลยขอคำแนะนำจากดอกเตอร์ท่านนี้ผ่านรายการวิทยุว่าจะเอาไปลงทุนอะไรดี
คำตอบของดอกเตอร์ท่านนี้ทำให้ผมตกตะลึง
เค้าแนะนำให้คนที่ถามเอาเงิน 30,000ที่มีไปลงทุนกองทุนอสังหาริมทรัพย์
แถมยังบอกอีกด้วยนะว่าตอนนี้มันราคาค่อนข้างแพงนะ
แถมยังอวดอีกว่าเคยแนะนำให้ผู้ฟังรายการไปซื้อเมื่อหลายปีก่อน
พระเจ้าช่วยกล้วยทอด!!!
ผมไม่คาดเลยว่าจะได้ยินคำแนะนำแบบนี้ออกรายการวิทยุ
จากปากของดอกเตอร์ท่านนี้ที่คนหลายคนเชื่อว่าเชี่ยวชาญการเงิน
มี 30,000 บาท ไปลงทุนในกองทุนอสังหาฯ
สมมุติได้เงินปันผลปีละ 5%
เจ้าของเคสจะมีรายได้จากการลงทุนปีละ 1,500บาท!!!
มันจะทำให้ชีวิตเค้าดีขึ้นมากเลยหรือครับ
เมื่อเทียบกับความผันผวนด้านราคาที่มีจากการลงทุน
ผมฟังเรื่องนี้แล้วก็ได้แต่ปลง
นี่ขนาดคนที่ได้ชื่อว่าเป็นกูรูด้านการเงินของประเทศยังคิดแบบนี้
แล้วคนทั่วไปหล่ะจะเป็นยังไง เฮ้อ!!!