หากเปรียบการเดินไปสู่จุดหมายของชีวิตของคนหลายๆคน
เปรียบเหมือนการเดินข้ามฝั่งด้วยสะพานเล็กๆสะพานหนึ่ง
ที่พาเราจากฝั่งที่เราอยู่ไปสู่ฝั่งแห่งความสำเร็จของตัวเองและครอบครัว
ระหว่างการเดินข้ามฝั่งอาจมีหลายๆคนที่พลั้งพลาดตกจากสะพานนั้นก่อนที่จะถึงฝั่ง
บางคนตกลงไปเพียงคนเดียว
แต่มีอีกหลายคนที่พาคนที่ตัวเองรักตกตามไปด้วย
ความสำเร็จทางการเงินก็เช่นเดียวกัน
คนหลายคนมีความฝันมากมายไม่ว่า
อยากร่ำรวย อยากมีอิสรภาพทางการเงิน อยากให้ครอบครัวมีความสุข
พยายามทำทุกทางทั้งมุ่งมั่นหาเงิน เก็บเงิน ออมเงิน ลงทุน
แต่ก็มีคนจำนวนมากจริงๆที่ไปไม่ถึงฝันที่ตัวเองต้องการ
สาเหตุที่คนหลายคนไม่สามารถข้ามฝั่ง
ไปสู่ความสำเร็จทางการเงินที่ต้องการได้ก็เพราะเหตุไม่ได้คาดฝันระหว่างทาง
ไม่ว่าการเจ็บไข้ได้ป่วยที่รุนแรง การจากไปก่อนวัยอันสมควร
หรือแม้แต่เหตุเล็กๆเช่นการตกงาน หรือการขาดรายได้จากการทำงาน
จะดีกว่าไหมที่เราจะเตรียมตาข่ายแห่งความปลอดภัยทางการเงินเผื่อไว้
หากมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นตัวเราเองจะได้ไม่ตกลงไป
หรืออย่างน้อยไม่ทำให้ครอบครัวหรือคนที่เรารักต้องตกตาม
ตาข่ายแห่งความปลอดภัยทางการเงิน
ไม่ใช่เพียงแค่เปิดบัญชีเงินฝาก หรือซื้อประกันอย่างใดอย่างหนึ่งครับ
แต่มันคือการจัดการอย่างครอบคลุมแบบองค์รวมเป็นพอร์ตเพื่อลดความเสี่ยง
ซึ่งประกอบไปด้วยการเตรียมการทั้ง 3 ส่วนครับ
1.เริ่มด้วยการเตรียมกองทุนฉุกเฉิน
เงินฉุกเฉินคือเงินที่เราต้องมีหากเกิดเหตุการณ์ขาดรายได้ชั่วคราว
เช่นการตกงาน การเปลี่ยนงาน หรือธุรกิจมีปัญหา
หรือแม้แต่มีรายจ่ายที่คาดไม่ถึงเช่น
ค่ารักษาพยาบาลของตัวเองและครอบครัว ค่าซ่อมรถ ซ่อมบ้าน
ลักษณะสำคัญของเงินก้อนนี้คือต้องเบิกง่าย ถอนง่าย
ควรมีขั้นต่ำ 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน
เงินก้อนนี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องไปเสียดอกเบี้ยจากการกู้หนี้ยืมสิน
มาจ่ายระหว่างที่ขาดรายได้ หรือค่าใช้จ่ายที่คาดไม่ถึงเหล่านี้
2.พิจารณาการทำประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง
การเจ็บป่วยโดยเฉพาะการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง
มีผลไม่ใช่แค่ค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงมากๆ
แต่ยังรวมถึงการขาดรายได้ หรือการมีรายได้ที่ลดลงอีกด้วย
อย่าคิดนะครับว่าสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นกับเรา
ไม่มีใครรับรองได้จริงๆ หรือแน่ๆหรอกครับว่ามันจะไม่เกิดขึ้นกับเรา
ถ้ามันเกิดขึ้นจริงความรุนแรงของปัญหามากจริงๆครับ
แค่คุณทำงานไม่ได้หรือทำได้แต่ไม่เหมือนเดิมก็แย่แล้ว
ถ้าเป็นอย่างนั้นรายได้ที่จะเอามาดูแลตัวเองและครอบครัวจะมาจากไหนหละ
ขาดรายได้ 3 เดือน 6 เดือน อาจพอไหว
แต่หากขาดรายได้ 1 ปี 3ปีตัวเอง และครอบครัวจะอยู่ได้อย่างไร
นี่ยังไม่นับค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาพยาบาลตัวเองที่เพิ่มขึ้นอีกนะ
เงินค่าเบี้ยประกันสุขภาพและโรคร้ายแรงก้อนเล็กๆ
สามารถลดความรุนแรงของปัญหาได้ครับเมื่อวันนั้นมาถึง
3.พิจารณาทำประกันชีวิตให้เพียงพอ
ประกันชีวิตไม่ได้มีไว้เพื่อหักลดหย่อนภาษีนะครับ
แต่ประกันชีวิตมีไว้สำหรับคนที่มีความรักและมีความรับผิดชอบต่อคนอื่น
ประกันชีวิตคือเงินสดก้อนหนึ่ง ที่จะมอบให้กับใครคนใดคนหนึ่ง ในเวลาใดเวลาหนึ่ง
ทุนประกันที่เหมาะสมคือจำนวนเงินที่ต้องเตรียมเพิ่ม
นอกเหนือจากสินทรัพย์ที่เปลี่ยนเป็นเงินสดได้ง่ายที่เรามี
หากขาดรายได้จากการจากไปของเรา
ซึ่งเท่ากับจำนวนเงินที่ต้องเตรียมเพื่อจะสามารถมั่นใจได้ว่า
ครอบครัวหรือคนที่เรารักยังคงสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้เหมือนเดิม
จนกว่าเค้าจะสามารถยืนได้ด้วยตนเอง
ทั้ง 3 อย่างเป็นส่วนประกอบสำคัญ
ที่จะต้องเกาะเกี่ยวกันกลายเป็นตาข่ายแห่งความปลอดภัยทางการเงิน
เพื่อจะทำให้เรามั่นใจได้ว่าเรา หรือคนที่เรารัก
จะสามารถข้ามฝั่งไปสู่ความสำเร็จทางการเงินที่ต้องการครับ