top of page

วิธีสร้างตาข่ายแห่งความปลอดภัยทางการเงิน

Writer: Mongkol LuMongkol Lu

หากเปรียบการเดินไปสู่จุดหมายของชีวิตของคนหลายๆคน

เปรียบเหมือนการเดินข้ามฝั่งด้วยสะพานเล็กๆสะพานหนึ่ง

ที่พาเราจากฝั่งที่เราอยู่ไปสู่ฝั่งแห่งความสำเร็จของตัวเองและครอบครัว

ระหว่างการเดินข้ามฝั่งอาจมีหลายๆคนที่พลั้งพลาดตกจากสะพานนั้นก่อนที่จะถึงฝั่ง

บางคนตกลงไปเพียงคนเดียว

แต่มีอีกหลายคนที่พาคนที่ตัวเองรักตกตามไปด้วย

ความสำเร็จทางการเงินก็เช่นเดียวกัน

คนหลายคนมีความฝันมากมายไม่ว่า

อยากร่ำรวย อยากมีอิสรภาพทางการเงิน อยากให้ครอบครัวมีความสุข

พยายามทำทุกทางทั้งมุ่งมั่นหาเงิน เก็บเงิน ออมเงิน ลงทุน

แต่ก็มีคนจำนวนมากจริงๆที่ไปไม่ถึงฝันที่ตัวเองต้องการ

สาเหตุที่คนหลายคนไม่สามารถข้ามฝั่ง

ไปสู่ความสำเร็จทางการเงินที่ต้องการได้ก็เพราะเหตุไม่ได้คาดฝันระหว่างทาง

ไม่ว่าการเจ็บไข้ได้ป่วยที่รุนแรง การจากไปก่อนวัยอันสมควร

หรือแม้แต่เหตุเล็กๆเช่นการตกงาน หรือการขาดรายได้จากการทำงาน

จะดีกว่าไหมที่เราจะเตรียมตาข่ายแห่งความปลอดภัยทางการเงินเผื่อไว้

หากมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นตัวเราเองจะได้ไม่ตกลงไป

หรืออย่างน้อยไม่ทำให้ครอบครัวหรือคนที่เรารักต้องตกตาม

ตาข่ายแห่งความปลอดภัยทางการเงิน

ไม่ใช่เพียงแค่เปิดบัญชีเงินฝาก หรือซื้อประกันอย่างใดอย่างหนึ่งครับ

แต่มันคือการจัดการอย่างครอบคลุมแบบองค์รวมเป็นพอร์ตเพื่อลดความเสี่ยง

ซึ่งประกอบไปด้วยการเตรียมการทั้ง 3 ส่วนครับ

1.เริ่มด้วยการเตรียมกองทุนฉุกเฉิน

เงินฉุกเฉินคือเงินที่เราต้องมีหากเกิดเหตุการณ์ขาดรายได้ชั่วคราว

เช่นการตกงาน การเปลี่ยนงาน หรือธุรกิจมีปัญหา

หรือแม้แต่มีรายจ่ายที่คาดไม่ถึงเช่น

ค่ารักษาพยาบาลของตัวเองและครอบครัว ค่าซ่อมรถ ซ่อมบ้าน

ลักษณะสำคัญของเงินก้อนนี้คือต้องเบิกง่าย ถอนง่าย

ควรมีขั้นต่ำ 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน

เงินก้อนนี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องไปเสียดอกเบี้ยจากการกู้หนี้ยืมสิน

มาจ่ายระหว่างที่ขาดรายได้ หรือค่าใช้จ่ายที่คาดไม่ถึงเหล่านี้

2.พิจารณาการทำประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง

การเจ็บป่วยโดยเฉพาะการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง

มีผลไม่ใช่แค่ค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงมากๆ

แต่ยังรวมถึงการขาดรายได้ หรือการมีรายได้ที่ลดลงอีกด้วย

อย่าคิดนะครับว่าสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นกับเรา

ไม่มีใครรับรองได้จริงๆ หรือแน่ๆหรอกครับว่ามันจะไม่เกิดขึ้นกับเรา

ถ้ามันเกิดขึ้นจริงความรุนแรงของปัญหามากจริงๆครับ

แค่คุณทำงานไม่ได้หรือทำได้แต่ไม่เหมือนเดิมก็แย่แล้ว

ถ้าเป็นอย่างนั้นรายได้ที่จะเอามาดูแลตัวเองและครอบครัวจะมาจากไหนหละ

ขาดรายได้ 3 เดือน 6 เดือน อาจพอไหว

แต่หากขาดรายได้ 1 ปี 3ปีตัวเอง และครอบครัวจะอยู่ได้อย่างไร

นี่ยังไม่นับค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาพยาบาลตัวเองที่เพิ่มขึ้นอีกนะ

เงินค่าเบี้ยประกันสุขภาพและโรคร้ายแรงก้อนเล็กๆ

สามารถลดความรุนแรงของปัญหาได้ครับเมื่อวันนั้นมาถึง

3.พิจารณาทำประกันชีวิตให้เพียงพอ

ประกันชีวิตไม่ได้มีไว้เพื่อหักลดหย่อนภาษีนะครับ

แต่ประกันชีวิตมีไว้สำหรับคนที่มีความรักและมีความรับผิดชอบต่อคนอื่น

ประกันชีวิตคือเงินสดก้อนหนึ่ง ที่จะมอบให้กับใครคนใดคนหนึ่ง ในเวลาใดเวลาหนึ่ง

ทุนประกันที่เหมาะสมคือจำนวนเงินที่ต้องเตรียมเพิ่ม

นอกเหนือจากสินทรัพย์ที่เปลี่ยนเป็นเงินสดได้ง่ายที่เรามี

หากขาดรายได้จากการจากไปของเรา

ซึ่งเท่ากับจำนวนเงินที่ต้องเตรียมเพื่อจะสามารถมั่นใจได้ว่า

ครอบครัวหรือคนที่เรารักยังคงสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้เหมือนเดิม

จนกว่าเค้าจะสามารถยืนได้ด้วยตนเอง

ทั้ง 3 อย่างเป็นส่วนประกอบสำคัญ

ที่จะต้องเกาะเกี่ยวกันกลายเป็นตาข่ายแห่งความปลอดภัยทางการเงิน

เพื่อจะทำให้เรามั่นใจได้ว่าเรา หรือคนที่เรารัก

จะสามารถข้ามฝั่งไปสู่ความสำเร็จทางการเงินที่ต้องการครับ


 
 
 

© 2020 by Mongkol Lusamlit

bottom of page