top of page
  • Writer's picturecharintip netiboonyanon

อาชีพสุดท้ายของชีวิต


#อาชีพสุดท้ายของชีวิต


ผมเห็นหลายคนเลยนะครับ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ๆ ที่มีเป้าหมายว่า อยากเลิกทำงานตอนอายุเท่านั้น เท่านี้ บางคนตั้งไว้เร็วมาก อายุ45 ก็อยากเลิกทำงานแล้ว บางคนอยากทำงานถึงแค่ 60 แล้วจะเลิกทำงาน จะเอาเงินเก็บไปหาความสุขของชีวิต


#เป้าหมายเหล่านี้ไม่ผิดครับ แต่ส่วนใหญ่ มักเกิดกับคนที่อายุยังไม่เยอะ อยู่ในช่วงอายุ 25-35 ที่คิดว่า ถึงตอนนั้นชีวิตเราคงมั่นคงและทำได้อย่างที่ฝันแล้ว


แต่พอเวลาผ่านไป อายุเคลื่อนไปที่ 35-38-40-45....


ทุกอย่างเริ่มไม่ง่าย บางคนเพิ่งซื้อบ้านตอนอายุ35 กว่าจะผ่อนหมด อายุเกือบ 60 แล้วคุณคิดว่าจะหยุดทำงานที่อายุ 45-50 ได้หรือครับ? (แต่ถ้าทำได้ก็เยี่ยมมากๆเลย)


เวลาเดินเร็วนะครับ บางคนมีเป้าหมาย แต่ไร้ทิศทางในการลงมือทำ รู้ตัวอีกที อายุเกือบจะเลยที่ตั้งเป้าไว้แล้ว แถมยังมีหนี้สิน กว่าจะเคลียร์หนี้หมด เงินเกษียณยังไม่ได้เตรียมซักบาท ถ้ามีลูกช้า ความฝันยิ่งช้าคูณสองเลย


ดังนั้นการตั้งเป้าหมายเรื่องการหยุดทำงานไม่ผิดครับ แต่ต้องมองความเป็นจริง มองภาระปัจจุบัน มองอายุที่เหลืออยู่ในการหาเงินด้วยว่า มีหนทางไหนที่จะทำให้คุณไปถึงฝันไหม?


หรือแท้จริงแล้ว เราควรยอมรับความจริง และเริ่มมองหา

อาชีพสุดท้ายของชีวิตไว้บ้าง...


คำว่า #อาชีพสุดท้าย ผมไม่ได้หมายถึงให้คุณต้องทำงานแบบปัจจุบัน โดยใช้แรงไปจนแก่จนเฒ่า ผมไม่ได้หมายถึงให้คุณต้องออกไป #ทำงานหามรุ่งหามค่ำ #จนต้องให้ลูกหลานหามเข้ารพ.


#ผมหมายถึงสิ่งที่สร้างรายได้ โดยไม่ต้องเอาแรงร่างกายไปแลกมา เพราะถึงตอนนั้น เรี่ยวแรงเราไม่ฮึกเหิมมีไฟแบบตอนนี้แล้วครับ


สิ่งที่ผมพอจะคิดออกก็คือ การเป็น "นักลงทุน" ซึ่งมีนักลงทุนหลายคนที่ปัจจุบันทำอาชีพอื่นเป็นหลัก แต่ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อาชีพสุดท้ายของเค้า คือการเป็นนักลงทุน...


#การลงทุนมีหลายแบบนะครับ คุณจะลงทุนในหุ้น,กองทุน, อสังหาริมทรัพย์ หรือทำธุรกิจ ก็แล้วแต่ความถนัด บวกกับความรู้ที่คุณมีติดตัว เพราะสิ่งที่"การลงทุนต้องการ" มากที่สุด ไม่ใช่เงิน แต่คือความรู้ในเรื่องนั้นๆ


ข้อแม้เดียวของการเป็นนักลงทุน คือ #เริ่มให้เร็ว เพราะการลงทุนต้องใช้เวลาเติบโต เหมือนปลูกต้นไม้ และหลายคน พลาดตรงนี้ครับ เพราะคิดว่ารอให้เลิกทำงานก่อน...ค่อยคิด สุดท้ายเงินโตไม่ทัน


การจะเป็นนักลงทุน คุณต้องใช้เวลาเรียนรู้อย่างเข้าใจ คุณถึงจะทำเงินจากมันได้ และค่อยๆให้มันหารายได้จนเติบโตเป็น Passive Income ทดแทนรายได้จากงานที่ต้องใช้เรี่ยวแรง


เมื่อถึงตอนนั้น หากคุณยังมีไฟ มีแรงที่จะทำอาชีพอื่นที่คุณรัก คุณจะสามารถทำได้แบบมีความสุขมากขึ้น


แล้วเชื่อผมเถอะครับ จริงๆแล้วความสุขของคนเรา อาจจะไม่ได้เกิดจากการที่เราไม่ต้องทำงาน แต่เกิดจากการที่เรา #มีอิสระที่เราเลือกเองได้ ว่าเราจะ

"ทำงานเฉพาะที่เราอยากทำ" ต่างหาก


นั่นคือชีวิตวัยเกษียณที่มีคุณค่า และ มีความสุขครับ

#รีบหาอาชีพสุดท้ายของชีวิตกันนะครับ

143 views0 comments
bottom of page